แนวทางการเลือกกระเบื้องเคาน์เตอร์ครัว และออกแบบครัวของคุณให้สวยงาม !!

การเลือกกระเบื้องเคาน์เตอร์ครัวเหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ เนื่องจากต้องมีความทนทานต่อการใช้งานที่มากพอเหมาะ และสามารถรองรับเงื่อนไขของการใช้งานในห้องครัวได้อย่างเหมาะสมนั่นเองครับ ซึ่งบทความในวันนี้เราจะมานำเสนอวิธีการเลือกกระเบื้องครัวให้มีประสิทธิภาพที่สุด


แนวทางการพิจารณาเลือกกระเบื้องเคาน์เตอร์ครัวให้เหมาะสม

  1. ความทนทานต่อความร้อนและน้ำ: เลือกกระเบื้องที่มีความทนทานต่อความร้อนและน้ำอย่างดี เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานในห้องครัวได้อย่างเหมาะสม
  2. ความสวยงาม: เลือกกระเบื้องที่มีลวดลายหรือสีที่สวยงาม และเข้ากับสไตล์ของห้องครัวของคุณ
  3. ความทนทานต่อสารเคมี: ควรเลือกกระเบื้องที่มีความทนทานต่อสารเคมี เช่น สบู่หรือสารล้างจาน เพื่อป้องกันการสึกหรอของพื้นผิว
  4. การดูดซึมน้ำ: เลือกกระเบื้องที่มีการดูดซึมน้ำต่ำ เพื่อป้องกันการเกิดความชื้นซึมเข้าสู่พื้นผิวและทำให้เกิดความเสียหาย
  5. การรับประกันคุณภาพ: ควรเลือกกระเบื้องที่มีการรับประกันคุณภาพและความทนทาน เพื่อให้มั่นใจในความคุ้มค่าของการลงทุนในการตกแต่งห้องครัวของคุณ

ลักษณะและจุดเด่นของ กระเบื้องเคาน์เตอร์ครัว แต่ละแบบ

l กระเบื้องโมเสค

  1. การตกแต่งที่ทันสมัย: กระเบื้องโมเสคมักมีการตกแต่งที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ มักมีลวดลายหรือดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตน
  2. ความทนทานและคงทน: กระเบื้องโมเสคมักมีความทนทานและคงทนต่อการใช้งานที่หนักหรือการเข้าถึงต่อเนื่อง ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีการใช้งานมาก เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ
  3. ความหลากหลายในลวดลาย: มีการใช้ลวดลายหรือดีไซน์ที่หลากหลายและน่าสนใจ เช่น การจำลองลายไม้ หิน หรือลวดลายธรรมชาติอื่นๆ
  4. การบำรุงรักษาที่ง่าย: กระเบื้องโมเสคมักมีการบำรุงรักษาที่ง่าย สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้น้ำและสบู่ และไม่ต้องใช้สารเคมีพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
  5. ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ: กระเบื้องโมเสคมักมีราคาที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับคุณภาพของมัน สามารถให้คุณภาพและความสวยงามในราคาที่เหมาะสมได้อย่างดี

บทความน่าสนใจ :

5 แนวทางการแต่งห้องครัวสีขาวสไตล์มินิมอล


l กระเบื้องหินอ่อน

  1. ลักษณะธรรมชาติ: กระเบื้องหินอ่อนมักมีลักษณะที่คล้ายกับหินธรรมชาติ มีลายเส้นและลวดลายที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เช่น เส้นใยหิน และรอยแตกของหิน
  2. ความทนทาน: กระเบื้องหินอ่อนมักมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน สามารถใช้ได้ในพื้นที่ที่มีการใช้งานมาก เช่น ห้องน้ำหรือห้องครัว
  3. ความหลากหลาย: มีหลากหลายในลายลักษณะและสีสัน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในการตกแต่งภายในที่ต่างๆ โดยสามารถเลือกใช้ตามสไตล์และการตกแต่งของบ้านได้อย่างอิสระ
  4. การบำรุงรักษาที่ง่าย: กระเบื้องหินอ่อนมักมีการบำรุงรักษาที่ง่าย เนื่องจากเป็นวัสดุที่ทนทานต่อการทำความสะอาด สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้น้ำและสบู่
  5. การใช้งานหลากหลาย: นอกจากจะใช้ในการปูพื้นภายในบ้านแล้ว กระเบื้องหินอ่อนยังสามารถนำมาใช้ในการปูผนังหรือทางเดินนอกบ้านได้ เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติและสวยงามให้กับพื้นที่ต่างๆ ในบ้าน

บทความน่าสนใจ :

7 ไอเดียเคาน์เตอร์บาร์ในฝัน !!


l กระเบื้องเซรามิก

  1. ความทนทาน: กระเบื้องเซรามิกมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน สามารถทนต่อการเดินเท้าและการใช้งานประจำได้โดยไม่เสื่อมสภาพ
  2. ความหลากหลายในลายและสีสัน: มีหลากหลายในลายและสีสันที่สามารถเลือกใช้ตามความต้องการและสไตล์ของบ้าน ทำให้เป็นวัสดุที่สามารถปรับใช้ในการตกแต่งได้ตามใจชอบ
  3. การบำรุงรักษาที่ง่าย: กระเบื้องเซรามิกมีการบำรุงรักษาที่ง่าย สามารถทำความสะอาดได้โดยใช้น้ำและสบู่ และไม่ต้องใช้สารเคมีพิเศษเป็นอย่างยิ่ง
  4. การติดตั้งที่สะดวก: กระเบื้องเซรามิกมีการติดตั้งที่สะดวกและง่าย สามารถติดตั้งได้โดยใช้วิธีการที่ง่ายดายและไม่ต้องใช้เวลานาน
  5. คุณภาพสูง: มีคุณภาพสูงและมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้เป็นวัสดุที่ให้ความพึงพอใจและคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว

บทความน่าสนใจ :


l กระเบื้องพอร์ซเลน

  1. ความทนทานและคงทน: กระเบื้องพอร์เซเลนมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการเดินเท้าและการมีการใช้งานที่สูงขึ้น
  2. การติดตั้งที่ง่าย: มีการติดตั้งที่ง่ายและสะดวก เนื่องจากมีน้ำหนักเบาและมีความหนาที่เท่าๆกัน ทำให้สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ
  3. ความหลากหลายในลายและสี: มีหลากหลายในลายและสีสันที่สวยงามและทันสมัย สามารถเลือกใช้ตามความต้องการและสไตล์ของบ้านได้
  4. การบำรุงรักษาที่ง่าย: กระเบื้องพอร์เซเลนมีการบำรุงรักษาที่ง่าย เนื่องจากสามารถทำความสะอาดได้โดยใช้น้ำและสบู่ และไม่ต้องใช้สารเคมีพิเศษ
  5. คุณภาพสูง: มีคุณภาพสูงและมีการใช้งานที่ยาวนาน สามารถให้ความพึงพอใจและคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว

บทความน่าสนใจ :


ปูกระเบื้องเคาน์เตอร์ครัวมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

  1. เตรียมพื้นผิว: ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาในพื้นผิวครัวก่อนการปู ต้องระเบิดเคลือบสนิทครั้งแรก และสำรวจเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นผิวมีความเรียบร้อยและเสถียรพอสำหรับการปูกระเบื้อง
  2. วางแบบและตัดกระเบื้อง: วางแบบกระเบื้องเคาน์เตอร์ตามแผนภาพที่วางและตัดกระเบื้องตามขนาดและรูปที่ต้องการ
  3. เตรียมเครื่องมือและวัสดุ: เตรียมเครื่องมือและวัสดุที่จำเป็นสำหรับการปู รวมถึงตะแกรงเทปไนลอนเพื่อให้กระเบื้องติดแน่นและคงที่
  4. ผสมปูนเคมี: ผสมปูนเคมีเพื่อให้มีความเหมาะสมกับกระเบื้องและสภาพอากาศ ต้องผสมให้เข้ากันอย่างถูกต้องเพื่อความแข็งแรงของการปู
  5. ปูกระเบื้อง: เริ่มต้นจากการทาพ่นปูนเคมีที่ตำแหน่งขอบกระเบื้องและวางกระเบื้องตามแบบที่วางไว้ ให้ใช้ขวดแสดงทิศทางเพื่อให้มั่นใจว่ากระเบื้องวางตรง และใช้ตะแกรงเทปไนลอนในการสร้างร่องรอยบนพื้นเพื่อให้กระเบื้องติดแน่น
  6. ปัดขอบ: หลังจากทำการปูกระเบื้องเสร็จสิ้น ให้ปัดขอบของกระเบื้องเคาน์เตอร์ด้วยปูนเคมี เพื่อให้มีความสม่ำเสมอ และป้องกันการแตกร้าวในอนาคต
  7. รอให้กระเบื้องแห้ง: รอให้กระเบื้องแห้งและเข้าสู่ขั้นตอนการทดลองใช้งาน ซึ่งอาจใช้เวลาอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง
  8. ฟันคอสีและประทับยี่ห้อ: หลังจากที่กระเบื้องแห้งแล้ว สามารถฟันคอสีหรือประทับยี่ห้อตามความต้องการได้ เพื่อเสริมความสวยงามและสมบูรณ์ของงานทั้งหมด

แนวทางการออกแบบเคาน์เตอร์ครัวให้สวยปัง

  1. เลือกวัสดุที่เหมาะสม: เลือกวัสดุที่เหมาะสมและมีคุณภาพสูง เช่น หินอ่อน, กระเบื้องเซรามิก, หรือกระเบื้องพอร์เซเลน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและทนทาน
  2. สร้างเลือดใหญ่: สร้างเลือดใหญ่สำหรับเคาน์เตอร์เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการทำงานและพื้นที่ในการเตรียมอาหาร ทำให้มีความสะดวกสบายในการใช้งาน
  3. เลือกสีที่เหมาะสม: เลือกใช้สีที่เหมาะสมกับสไตล์ของห้องครัว โดยคำนึงถึงการสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นและน่าสนใจ
  4. อุปกรณ์เสริมสร้างความสวยงาม: เพิ่มอุปกรณ์เสริม เช่น ไฟ LED หรือระบบไอเสียในเคาน์เตอร์ เพื่อเพิ่มความสวยงามและสะดุดตา
  5. การจัดวางเครื่องใช้: จัดวางเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบและเรียบร้อย เพื่อสร้างความเรียบร้อยและสวยงามให้กับเคาน์เตอร์ครัว
  6. การใช้งานของเคาน์เตอร์: ให้คำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น การตั้งความสูงของเคาน์เตอร์, การให้พื้นที่เพียงพอสำหรับการทำอาหาร, และการเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
  7. การเน้นรายละเอียด: ให้คำนึงถึงรายละเอียดของการออกแบบ เช่น การเลือกใช้หน้าเคาน์เตอร์ที่มีพื้นผิวเรียบ การเลือกใช้มุมที่แหลมคม หรือการเลือกใช้วัสดุที่มีลวดลายหรือสีที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์และสวยงามให้กับเคาน์เตอร์ครัว

SPS HOME DESIGN รับเหมาออกแบบตกแต่งภายในครบวงจร

sps home design

l ทำไมต้องเลือก SPS HOME DESIGN ?

1. Qualityทางเรามีบริการที่ครบวงจร ระดับพรีเมียม มีคุณภาพ ตรงปกไม่จกตา เเละบริการรับเหมาก่อสร้างทุกรูปแบบครบจบที่เดียว เเละที่สำคัญเรามีกระบวนการการทำงานชัดเจน และแจ้งอัปเดตลูกค้าให้ทราบสม่ำเสมอ

2. Standardทางเรามีทีมงานที่ได้รับมาตรฐาน เเละการรับรองทางกฎหมายอย่างถูกต้อง คอยสร้างสรรค์ผลงานให้ลูกค้าทุกคนได้ตามความต้องการ

3. All In Oneทางเรามีทีมงานที่เป็นมืออาชีพ และมีประสบการณ์การทำงานมากกว่า 10 ปี คอยดูเเลตลอดการทำงานทุกขั้นตอนพร้อมบริการหลังขายที่ดีเยี่ยม

4. Serviceพวกเราพร้อมให้บริการลูกค้าอย่างใส่ใจเเละทุ่มเทสุดหัวใจ เพื่อให้ลูกค้าได้มีความพึงพอใจ เเละได้รับประสบการณ์ที่เเตกต่างกว่าที่อื่นอย่างเเน่นอน

5. After Sale Serviceทางเรามีบริการหลังการขายที่ใส่ใจไม่แพ้บริการในระหว่างดำเนินงาน โดยทางเรามีการรับประกันวัสดุ เเละงานก่อสร้างทุกรูปแบบที่ลูกค้าเลือกทำกับเรา และถ้าลูกค้ามีปัญหาสามารถโทรเเจ้งทางทีมงานของเราได้ทันที