ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงลักษณะเฉพาะของ แบบบ้านวินเทจ ทั้งหมดเพื่อให้รู้ถึงความหลากหลายของ บ้านสไตล์วินเทจ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน การตกแต่งบ้านแบบวินเทจไม่เพียงแต่เน้นความคลาสสิคเเละหรูหราเท่านั้น แต่ยังเน้นการใช้สีสัน วัสดุต่าง ๆ และการจัดเรียงที่คำนึงถึงความสมดุล ไม่รกเกินไป เเละต้องผสมผสานเข้ากับสไตล์อื่นได้อย่างมีคุณภาพเเละสวยงามซึ่งจะทำให้ แบบบ้านวินเทจ นั้นมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกับสไตล์ไหน
ดูแบบบ้านสวยๆ คลิ๊ก!!
รวม10 แบบบ้านวินเทจ ที่สวยงาม เเละหลากหลายสไตล์
1. Classic Vintage
เป็นสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความวินเทจ เป็นสไตล์ที่ผสมระหว่างสไตล์ที่เก่าทั้งคู่เเละนำมันกลับมารวมกันใหม่ในยุคปัจจุบัน สไตล์นี้มักจะนำเอาสไตล์และดีไซน์ที่มีความเป็นโบราณก็จริง เเต่เราจะต้องทำให้บ้านมีความหรูหรา เเละทันสมัยขึ้นบ้าง จะไม่นิยมเอาของเก่ามาผสมกันเเบบตายตัวเพราะมันจะทำให้สงเสริมความล้าหลังลงไปในตัวบ้านอย่างมาก
สไตล์ Classic Vintage มักจะมีลักษณะตกแต่งที่มุ่งเน้นไปที่ความคลาสสิกและสง่างาม โดยมักใช้เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่มีลักษณะโบราณ เเต่ต้องมีความสง่างาม และมีรายละเอียดที่เรียบหรู อาจเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายคลาสสิกและสีทองเหลืองหรือทองแดง หรืออาจเป็นของตกแต่งที่มีลวดลายดีไซน์เก่าแก่และเป็นที่นิยมในอดีตพูดง่ายๆก็คือของเก่าในยุคนั้นดูทันสมัยนั่นเอง ซึ่งสไตล์นี้จะสื่อถึงการสร้างความทรงจำ บรรยากาศที่มีความคลาสิค ย้อนวัยและมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เเละมีความอบอุ่นในตัวเองนั่นเอง
บทความน่าสนใจ :
2. Modern Vintage
แบบบ้านวินเทจ สไตล์ Modern Vintage จะมีการใช้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะคลาสสิกจากยุคก่อน แต่อาจมีการปรับปรุงให้เข้ากับสภาพการใช้งานในยุคปัจจุบัน เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่สีสันสวยงามมีการเคลือบให้เงาดูทันสมัย หรือโครงสร้างต่างๆ ที่ทันสมัยมากขึ้น การใช้วัสดุเช่นเหล็ก กระจก หรือวัสดุที่มีลวดลายที่มองเห็นได้ชัดเจนก็มีความสำคัญในการตกแต่ง
สีที่พบในสไตล์นี้มักจะเป็นสีที่อ่อนโยน สีเนื้อ สีเทา สีขาว หรือสีนู้ด และบางครั้งอาจมีการใช้สีที่สดใสเพื่อเพิ่มความสดใสและมองดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น
สไตล์ Modern Vintage นั้นเน้นความสมดุลระหว่างความสง่างามและความลงตัวของการผสมกันของสองยุคสมัย เเละจะได้บ้านที่มีความ ย้อนวัย อบอุ่น จากของวินเทจ เเละได้ความทันสมัย ความสดใหม่ ของความโมเดิร์น เเละรวมกันจะออกมาเป็นบ้านที่น่าอยู่ ลงตัวเเละนิยมมากในหมู่ของคนที่ชอบสเน่ห์ของทั้งสองยุคมารวมกันนั่นเอง
บทความน่าสนใจ :
3. Vintage Industrial
เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์วินเทจ (Vintage) และสไตล์อุตสาหกรรม (Industrial) ซึ่งสร้างเป็นสไตล์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นผลจากการผสมผสานความสง่างามของสไตล์วินเทจและความดิบที่ทันสมัยของสไตล์อุตสาหกรรมร่วมกัน
สไตล์ Vintage Industrial มักมีลักษณะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่มีความดิบของเนื้อวัสดุเดิมๆ มีความเป็นโครงสร้างชัดเจนเเละมีลักษณะเป็นโรงงานหรืออุตสาหกรรม เช่น เหล็ก เฟอร์นิเจอร์ที่มีโครงสร้างที่แข็งแรง หรือส่วนประกอบที่เป็นโลหะ เสาเหล็ก หรือตะเกียงเหล็ก ส่วนสีที่นิยมใช้มักเป็นสีเหลืองเข้ม สีดำ หรือสีเทาเข้มเพื่อเน้นความหรูหราและทันสมัย
เเละความรู้สึกที่บ้านสไตล์นี้ให้จะเป็นความรู้สึกที่ ดูมั่นคงเเละเเข็งเเรงร่วมกับความคลาสสิคของยุคก่อนเข้าด้วยกันนั่นเอง
บทความน่าสนใจ :
5. Vintage Coastal
เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์วินเทจ (Vintage) และสไตล์ชายฝั่ง (Coastal) โดยสร้างบรรยากาศหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ที่ผสมผสานความคลาสสิกและความสดใสของชายฝั่งทะเล
ในสไตล์ Vintage Coastal มักจะใช้เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่มีลักษณะโบราณ คลาสสิก และเป็นที่ระลึกในอดีต โดยผสมผสานกับบรรยากาศของชายฝั่งทะเลที่สดใส เช่น การใช้เฟอร์นิเจอร์โบราณที่มีลวดลายหรือรายละเอียดที่มีความเป็นคลาสสิก รวมถึงการนำเข้าองค์ประกอบที่เป็นชายฝั่งเข้ามา เช่น การใช้เครื่องใช้ในการตกแต่งที่มีลักษณะเดียวกับชายฝั่งทะเล หรือการใช้สีที่เป็นทางเลือกที่สร้างบรรยากาศแห่งชายฝั่งเช่นสีขาว สีน้ำเงินอ่อน หรือสีเงินเพื่อเสริมความสดใสและมีความรู้สึกเย็นสบายเหมือนเรานั่งอยู่ริมชายหาดนั่นเอง
บทความน่าสนใจ :
6. Vintage Rustic
เป็นสไตล์ แบบบ้านวินเทจ ที่ผสมผสานความคลาสสิกของสไตล์วินเทจ (Vintage) และลักษณะของสไตล์ Rustic รวมกัน เพื่อสร้างบรรยากาศที่มีความอบอุ่น ดูดีและมีเอกลักษณ์
ในสไตล์ Vintage Rustic นั้นมักจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพและความคลาสสิก เช่น ไม้และโลหะที่มีลักษณะโบราณ ส่วนสไตล์ Rustic มักจะมีลักษณะเป็นวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้จริง, โลหะ, หิน, หรือไม้สังเคราะห์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งจะมอบความอบอุ่นและความเป็นกลางกับบ้านสไตล์นี้
ซึ่งการใช้วัสดุธรรมชาติและวัสดุคลาสสิกในการตกแต่งภายในบ้านจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและอบอุ่น เเละการใช้โทนสีที่สมดุลกัน เช่น สีน้ำตาลเข้ม สีเทา สีดำ รวมไปถึงสีอื่นๆ ที่มีลักษณะเป็นธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความสมดุลและความสง่างามในบรรยากาศภายในบ้าน
7. Vintage Glam
เป็นสไตล์ที่ผสมผสานความเป็นสไตล์วินเทจ (Vintage) และความเรียบง่ายของสไตล์ Glamorous (Glam) ซึ่งเน้นไปที่ความหรูหราและเรียบง่ายที่มีสไตล์อันโดดเด่น
ในสไตล์ Vintage Glam มักจะมีการใช้งานวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะคลาสสิกและมีความสุภาพ โดยมักจะมีการใช้วัสดุเช่น เครื่องประดับสไตล์โบราณ, กระจกหรูหรา, เฟอร์นิเจอร์หรูหราที่มีลวดลายสวยงาม, หรือชุดเครื่องนอนหรูหรา เป็นต้น
สีที่ได้รับความนิยมใน Vintage Glam มักจะเป็นโทนสีที่หรูหรา และเรียบง่ายเช่น ทอง, เงิน, ดำ, ขาว, สีเนื้อ เเละการใช้งานแสงสว่างในสไตล์นี้มักจะเน้นไปที่ไฟขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเติมเต็มความหรูหราในบรรยากาศอีกด้วย
บทความน่าสนใจ :
8. Art Deco Vintage
เป็นสไตล์ แบบบ้านวินเทจ ที่ผสมผสานของศิลปะและความเท่ห์ที่มีลักษณะเฉพาะของยุค Art Deco ที่เน้นความสวยงามและดีไซน์ที่ลงตัว แม้จะมีลักษณะที่คลาสสิกและโบราณ แต่ก็ยังคงความเท่ห์และสมัยอยู่
ในสไตล์ Art Deco Vintage มักจะมีเฟอร์นิเจอร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ยกตัวอย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายสวยงาม, โคมไฟหรูหรา, หรือชุดเครื่องนอนที่มีการออกแบบที่เน้นความเท่ห์และคลาสสิก และการผสมผสานวัสดุที่มีลวดลายของศิลปะที่มีเอกลักษณ์ เเละวัสดุที่มีความวินเทจเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
และสีที่ได้รับความนิยมในสไตล์ Art Deco Vintage มักจะเป็นสีที่เข้ม โดดเด่น และมีลวดลายที่สวยงาม เพื่อเพิ่มสไตล์ ศิลปะ เเละความคลาสสิค ซึ่งจะรวมออกมาทำให้บ้านอบอุ่นเเถมมีสไตล์อีกด้วย
บทความน่าสนใจ :
9. Luxury Vintage
เป็นสไตล์ แบบบ้านวินเทจ ที่ผสมผสานความหรูหราและความเป็นโบราณอย่างลงตัว ส่วนหนึ่งมาจากความเรียบง่ายและคลาสสิกของวินเทจ แต่ยังเพิ่มเติมความหรูหราเข้าไป ด้วยการใช้วัสดุตกแต่งที่มีคุณภาพสูงรวมถึงการนำวัสดุที่มีความละเอียดสูงเข้ามาใช้ในการตกแต่ง
ในสไตล์นี้จะมีสีสันค่อนข้างที่เข้ม โดดเด่น เช่น ทอง, เงิน, ดำ, และเขียวเข้ม โดยมักมีการใช้งานวัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น ผ้าหรูหรา, เครื่องประดับที่มีความดูเเพง, กระจกหรูหรา, หรือโครงสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่มีลวดลายหรูหรา มีความเป็นผู้ดีมีชาติตระกูล เเละรวมเข้ากับความคลาสิคจากยุคก่อน ซึ่งจะรวมกันออกมาทำให้บ้านมีความดูเเพง ดูหรูหราอย่างมากเเต่ก็จะมีงบการตกเเต่งที่ค่อนข้างสูงตามมานั่นเอง
ดูแบบบ้านสวยๆ คลิ๊ก!!
10. Minimal Vintage
บ้านสไตล์นี้จะเป็นการนำความเรียบง่ายและความสง่างามของสไตล์มินิมอลมาผสมกับความเป็นโบราณและเปรียบเสมือนแบบสมัยก่อนของวินเทจอย่างลงตัว
การตกแต่งบ้านในสไตล์ Minimal Vintage จะใช้งานพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพโดยลดสิ่งที่ไม่จำเป็นลง เน้นความเรียบง่ายและสบายตา เน้นการใช้งานอย่างสะดวกเป็นหลัก รวมถึงใช้วัสดุที่มีคุณค่าและคุณภาพสูง แต่ก็ต้องไม่หรูหราหรือซับซ้อนมาก
สีที่นิยมของ แบบบ้านวินเทจ ในสไตล์ Minimal Vintage จะเป็นสีที่อ่อนโยนและเรียบง่าย เช่น เทาอ่อน, ขาว, ดำ, น้ำเงินเข้ม เพื่อสร้างความสง่างามและเน้นความเรียบง่าย
การใช้เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ Minimal Vintage มักเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีการออกแบบที่เรียบง่ายและมีลักษณะคลาสสิก เช่น โต๊ะกลางหรือชั้นวางของที่มีดีไซน์เรียบหรู เเละการใช้ของตกเเต่งหรือของประดับในบ้านก็มักจะเป็นรูปแบบที่มีความโบราณนั่นเอง
รวม ข้อดี แบบบ้านวินเทจ
บ้านสไตล์วินเทจมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของผู้คน ดังนี้:
- ความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์: บ้านสไตล์วินเทจมักมีลักษณะที่น่าทึ่งและเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการใช้บรรยากาศและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ในการตกแต่งภายใน ทำให้บ้านมีความสวยงามและอารยธรรมเฉพาะตัว
- การผสมผสานสไตล์โบราณและทันสมัย: การรวมสไตล์โบราณและทันสมัยเข้าด้วยกันเป็นจุดเด่นของบ้านสไตล์วินเทจ ทำให้มีความทันสมัยแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ที่มีการนำเอาองค์ประกอบของโบราณมาปรับใช้ให้เข้ากับสมัยใหม่
- ความอบอุ่นภายในบ้าน: บ้านสไตล์วินเทจมักมีองค์ประกอบที่สร้างความอบอุ่นและสะท้อนความสบายใจ ทำให้เป็นที่อยู่อาศัยที่สบายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผสมกับการใช้วัสดุที่อบอุ่นเช่นไม้หรือผ้าในการตกแต่ง
- การใช้วัสดุหรูหรา: บ้านสไตล์วินเทจมักใช้วัสดุที่มีคุณภาพและหรูหรา เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้หรือโลหะที่มีการสร้างเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ เสริมสร้างความดูเเพงให้กับบ้านของคุณ
- การใช้สีและรายละเอียดที่สำคัญ: การใช้สีของบ้านสไตล์วินเทจจะใช้สีที่อ่อนนุ่ม และการเน้นรายละเอียดที่สำคัญในการตกแต่ง เช่น การใช้สไตล์อาร์ตดีโค่ในการประดับแต่งหรือการนำโครงสร้างวินเทจมาใช้ทางระเบียงหรือส่วนต่าง ๆ ในบ้าน
- เน้นศิลปะ: บ้านสไตล์วินเทจมักมีการใช้ศิลปะหลากหลายชนิด จากทั่วมุมโลกไม่ว่าจะเป็นของสะสมต่างๆเช่น ภาพวาด ถ้วยชามเก่า รูปปั้น ของเก่าต่างๆเป็นต้น ซึ่งส่งผลให้บ้านสไตล์นี้จะสื่อถึงความประณีตของศิลปะในเเขนงต่างๆได้ออกมาอย่างชัดเจน
- ความคลาสสิกที่ไม่มีวันตาย: มีความเป็นคลาสสิกและมีความสวยงามที่อันเนื่องมาจากสไตล์วินเทจ ทำให้บ้านเหล่านี้สามารถคงความสวยงามได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตามเเถมเมื่อเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่อาจจะทำให้บ้านสไตล์นี้มีความสวยงามมากขึ้นเเทนอีกด้วย
แบบบ้านวินเทจ เหมาะกับใคร ใช้งบสูงมั้ย ?
แบบบ้านวินเทจมักเหมาะสำหรับคนที่ต้องการบ้านที่มีสไตล์คลาสสิก และมีความงดงามอย่างพิถีพิถัน บ้านแบบนี้มักจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และมีรายละเอียดที่ดี ทำให้มีราคาที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับบ้านแบบอื่น ๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงได้ โดยเฉพาะกับบ้านที่มีวัสดุและการตกแต่งที่มีคุณภาพสูง หรือของสะสมที่มีมูลค่าเเพง เป็นต้น
การต้องการสร้างบ้านแบบวินเทจอาจต้องใช้งบที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับบ้านแบบอื่น ๆ เนื่องจากการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และการสร้างรายละเอียดที่ดี ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นได้บ้าง อย่างไรก็ตาม การวางงบประมาณในการสร้างบ้านทุกๆ ครั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดและรายละเอียดของโครงการเป็นหลัก แต่โดยทั่วไปแล้ว บ้านแบบวินเทจมักจะมีต้นทุนสูงกว่าบ้านแบบอื่นๆ บ้านแบบนี้มักเหมาะกับผู้ที่มีความสนใจ ความรักในสไตล์คลาสสิกและต้องการบ้านที่มีคุณภาพและความงดงามที่ยาวนาน ซึ่งเป็นสไตล์ที่เน้นของเก่า เเต่ไม่มีวันเเก่ลงตามกาลเวลา
แบบบ้านวินเทจ ดูแลยากมั้ย ?
การออก แบบบ้านวินเทจ ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
การออกแบบบ้านสไตล์วินเทจเริ่มต้นด้วยการศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับสไตล์การตกแต่งของบ้านวินเทจให้มากที่สุด เริ่มจากการสำรวจและรวบรวมไอเดียจากแหล่งที่มาต่าง ๆ เช่น หนังสือ, อินเทอร์เน็ต, แบบบ้าน, หรือแม้กระทั่งบ้านจริงที่มีสไตล์วินเทจ ศึกษาดูว่าสไตล์บ้านนี้มีลักษณะอะไรบ้างและคุณค่าที่แตกต่างอย่างไร
การออกแบบบ้านวินเทจต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการนำเอาสไตล์คลาสสิกของอดีตมาผสมผสานกับความทันสมัยของวันนี้ เน้นไปที่ความงดงาม, ความลงตัว, และรายละเอียดที่ดี เช่น การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง, การตกแต่งที่มีรายละเอียด, โครงสร้างที่มีความแข็งแรง, การจัดวางโฟกัสที่ลงตัวในรายละเอียดเล็ก ๆ
ต่อมาคือการวางแผนออกแบบบ้าน ซึ่งควรคำนึงถึงขนาดพื้นที่, การจัดวางห้อง, การใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม, การสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม, และความสะดวกสบายสำหรับผู้อยู่อาศัย เมื่อมีแบบแผนแล้วก็เริ่มวางแบบผังของบ้าน เรียกว่า Blueprints และ 3D Renderings เพื่อสามารถมองภาพรวมของบ้านได้อย่างชัดเจน
หลังจากนั้นคือขั้นตอนของการสร้าง คุณควรทำการเลือกสร้างบ้านด้วยผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เพียงพอที่จะทำให้ความฝันของบ้านสไตล์วินเทจของคุณเป็นจริง
การออกแบบบ้านสไตล์วินเทจเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและการศึกษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและตรงใจ แต่ก็สร้างบ้านที่เป็นที่พอใจและมีคุณภาพตามที่คุณต้องการได้ในที่สุด
ข้อควรรู้ก่อนลงมือรีโนเวท แบบบ้านวินเทจ
การเริ่มต้นโครงการรีโนเวทบ้านเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้โครงการเป็นไปได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ คุณควรเริ่มต้นด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
- การวางแผน: วางแผนที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่สำคัญ เริ่มจากการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และประสิทธิภาพที่คุณต้องการจากการรีโนเวท รวมถึงการประเมินงบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้
- การทำความเข้าใจในโครงการ: ระวังความซับซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในโครงการรีโนเวท คุณควรทำความเข้าใจถึงโครงสร้างที่มีอยู่และการตัดสินใจที่ต้องทำเพื่อความสะดวกในการทำโครงการ
- การเลือกบริษัท/ช่าง: ควรเลือกบริษัทหรือช่างที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการรีโนเวท เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีและมีคุณภาพ
- การวางแผนการเงิน: ระบบงบประมาณที่เป็นมิตรและความชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้โครงการไม่เกินงบประมาณที่คุณกำหนดไว้
- การศึกษาและการค้นคว้า: ค้นคว้าเกี่ยวกับวัสดุและเทคโนโลยีที่คุณสนใจ เพื่อที่คุณจะเลือกวัสดุที่เหมาะสมและมีคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับโครงการของคุณ
- การประเมินความเสี่ยง: คำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการค้นหาบริษัทหรือช่างที่มีคุณภาพ
- การตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง: ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบอนุญาติการก่อสร้าง การอนุมัติจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง และการประกันภัย
- การทำประเมินเพิ่มเติม: ทำการประเมินรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การปรับปรุงแผนที่ได้ตามความเป็นจริง และการแก้ไขแผนเดิมเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการที่แท้จริงของโครงการ
การตรวจสอบและการเตรียมความพร้อมเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้โครงการรีโนเวทบ้านเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายในการดำเนินการต่อไป