7 ไอเดีย ผ้าม่าน สุดปัง ! เลือกแบบไหนให้บ้านสวยและลงตัวมากที่สุด

7 ไอเดีย ผ้าม่าน สุดปัง ! เลือกแบบไหนให้บ้านสวยและลงตัวมากที่สุด

ผ้าม่าน นอกเหนือจากหน้าที่หลักของม่านที่ช่วยปกป้องแสงแดด และช่วยให้ความเป็นส่วนตัวแก่เราแล้ว ผ้าม่านยังช่วยสร้างบรรยากาศแบบต่างๆได้ เช่น บรรยากาศแบบอ่อนโยน แบบเคร่งขรึม แบบสดใส แบบโมเดิร์น ฯ ที่สำคัญคือ ช่วยสร้างทัศนียภาพที่สวยงามให้บ้าน วันนี้ทางทีมงาน SPS HOME DESIGN ได้รวบรวบข้อมูล 7 รูปแบบผ้าม่านสวยๆ เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับบ้านคุณ มาให้ชมดังนี้นะครับ


7 รูปแบบ ผ้าม่าน สวยๆ แต่ละแบบมีลักษณะและจุดเด่นอย่างไรบ้าง ?

ผ้าม่านจีบ

1. ผ้าม่านจีบ – คลาสสิค ร่วมสมัย สวยหรู

เป็นม่านรูปแบบมาตรฐานที่ทุกบ้านนิยมเลือกใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะม่านรูปแบบนี้สามารถเข้ากันได้กับห้องทั่ว ๆ ไปได้แทบจะทุกสไตล์ ลักษณะของม่านจีบ จะมีการจับจีบที่ผ้าม่านด้านบน เป็นจีบ 3 จีบ ทำให้ผ้าม่านมีลอนสวยงาม และสามารถติดผ้าได้ 2 ชั้นคือม่านโปร่งและม่านทึบ หากบานหน้าต่างหรือประตูยิ่งเป็นบานใหญ่และสูง แล้วเลือกติดม่านจีบจะยิ่งทำให้ห้องนั้นดูสวยหรู อลังการ หรือหากต้องการให้ห้องนั้นมีอารมณ์ร่วมสมัย เรียบหรู และดูเรียบร้อย ให้ทำรางม่านซ่อนบนฝ้าเพดานได้

บทความน่าสนใจ :

7 TIPS เเต่งห้องนอนสไตล์มินิมอล ให้สวยปัง


ผ้าม่านตาไก่

2. ผ้าม่านตาไก่ – โดดเด่น ดีไซน์สวย ไม่ตกยุค

สำหรับคนที่เน้นความทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ ออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น แนะนำให้เลือกติดม่านตาไก่ ลักษณะของม่านรูปแบบนี้ จะโชว์รางม่านชัดเจน โดยสามารถเลือกแบบรางม่าน และหัวรางให้เข้ากับสไตล์ของห้องได้ ส่วนผ้าม่านที่ได้จากการสอดผ่านห่วงตาไก่ จะได้ลอนที่ดูพริ้วไหว สวยงาม เพิ่มมิติให้ห้องดูมีเสน่ห์มากขึ้น


ผ้าม่านหูกระเช้า

3. ผ้าม่านหูกระเช้า – ดูเก๋ มีเสน่ห์ เป็นกันเอง

ม่านรูปแบบนี้จะให้อารมณ์เก๋ ๆ สนุกสนาน เป็นกันเอง จึงเหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน แต่ไม่เหมาะที่จะเลือกใช้กับห้องหรือสถานที่ที่เป็นทางการ จุดเด่นของม่านหูกระเช้า คือ หูแขวนรางม่าน จะให้อารมณ์น่ารัก และเก๋ ม่านหูกระเช้าเป็นม่านรูปแบบเดียวที่ใช้ผ้าเป็นตัวคล้องรางแทนห่วงม่าน เวลารูดเปิด-ปิดผ้าม่านอาจไม่ค่อยคล่องเหมือนรางชนิดอื่น เพราะผ้าที่เป็นหูแขวนสัมผัสกับรางม่านโดยตรง จะทำให้มีความฝืด แต่ก็ถอดซักได้ง่าย


ผ้าม่านลอน

4. ผ้าม่านลอน – เรียบง่าย ดูดี ไม่หรูจนเกินไป

ลักษณะของม่านลอน ผสมผสานระหว่างม่านตาไก่ และม่านจีบเข้าไว้ด้วยกัน โดยลักษณะของผ้าจะเป็นลอนพับไปมา คล้ายม่านตาไก่ แต่ไม่มีการเจาะห่วงที่ด้านบนผ้าม่าน จะถูกล็อคผ้าม่านให้เป็นลอนคล้ายม่านจีบแทน ม่านรูปแบบนี้เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล การจัดบ้านแบบเรียบง่าย สบาย ๆ แต่ยังคงเรียบหรูและดูดี ไม่เบื่อง่าย เนื่องจากบริเวณหัวผ้าม่านจะไม่มีการจับจีบ และปล่อยหัวผ้าม่านให้เป็นลอนโค้งอิสระไปจนสุดปลายผ้า จึงดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สบายตา และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย


ผ้าม่านม้วน

5. ผ้าม่านม้วน – โมเดิร์น เหมาะกับคนรุ่นใหม่

ด้วยความที่ม่านม้วนมีรูปแบบที่ทันสมัย และลักษณะพิเศษของม่านคือ เป็นผ้าผืนใหญ่ที่สามารถม้วนเก็บได้อย่างมิดชิดเรียบร้อย ทำให้ประหยัดพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นม่านที่ไม่เก็บฝุ่น ทำความสะอาดได้ง่าย จึงอยากแนะนำให้คนที่ตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น ออฟฟิตสำนักงาน หรือร้านค้าที่ต้องการความเป็นสมัยใหม่เลือกม่านชนิดนี้ไปติดตั้งได้


ผ้าม่านพับ

6. ผ้าม่านพับ – รูปแบบทันสมัย เรียบหรู

ม่านรูปแบบนี้ เหมาะกับหน้าต่างบานแคบ หรือหน้าต่างบานเล็กที่ติดกันหลายบาน เพราะจะได้เลือกบานเปิดม่านได้ ไม่ต้องเปิดทั้งหมด ม่านพับจะคล้ายกับม่านม้วน คือ เมื่อต้องการเปิดม่าน ให้ดึงรอกให้ผ้าม่านเก็บขึ้นไปด้านบน ม่านม้วน ผ้าก็จะม้วนขึ้นไปด้านบน ส่วนม่านพับ ผ้าจะพับขึ้นไปเป็นชั้น ๆ เรียงซ้อนกันขึ้นไป ม่านม้วนและม่านพับจะแตกต่างกันที่สไตล์ ม่านม้วนจะออกไปทางโมเดิร์นแบบเรียบง่าย แต่ม่านพับจะเป็นโมเดิร์นแบบเรียบหรู

บทความน่าสนใจ :

10 ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์เกาหลี


ผ้าม่าน สไตล์มู่ลี่

7. ผ้าม่าน สไตล์มู่ลี่ – ดีไซน์เรียบง่าย แต่มีสไตล์

มีทั้งแบบที่เป็นไม้ และอลูมิเนียม แต่ใน 2 แบบนี้ ก็จะมีชนิดของไม้และอลูมิเนียมให้เลือกตามความต้องการอีก ซึ่งแบบไม้จะให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนแบบอลูมิเนียมจะให้ความรู้สึกโมเดิร์นกว่า ในเรื่องของคุณสมบัติ มู่ลี่แตกต่างจากม่านแบบอื่นๆ คือ สามารถปรับแสง โดยการปรับบานเข้าหรือออก เพื่อให้ได้ทิศทางหรือขนาดช่องแสงตามต้องการ 


 

5 ประโยชน์ของ ผ้าม่าน มีอะไรบ้างมาดูกัน !!

1. ช่วยป้องกันแสงแดดที่ส่องเข้ามาภายในบ้าน

ผ้าม่านมักเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่มักจะนึกถึงในการใช้เพื่อป้องกันแสงแดดที่ส่องเข้ามาในบ้าน หากต้องการป้องกันเฉพาะแสงแดดสามารถเลือกใช้ผ้าม่านแบบปกติทั่วไปได้ หรือหากต้องการป้องกันแสงด้วยผ้าม่านชนิดที่ป้องกันแสงได้ในตัวเองก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยผ้าชนิดนี้สามารถควบคุมแสงที่ลอดเข้ามาในห้องได้ตามความต้องการของผู้อาศัย จะให้สว่างหรือมืดมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการเปิดรับแสงของหน้าต่าง และยังช่วยให้สีเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องไม่ซีดจากการที่โดนแสงแดดแรงๆ อีกด้วย

2. ช่วยแบ่งห้องเป็นสัดส่วน

ผ้าม่าน ยังสามารถใช้เป็นตัวช่วยในการแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม หรือสำนักงาน การติดตั้งผ้าม่านช่วยสร้างพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้ผนังกั้น ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น การแบ่งห้องนอนออกจากห้องนั่งเล่นในคอนโดขนาดเล็ก หรือใช้กั้นพื้นที่ทำงานภายในบ้านเพื่อเพิ่มสมาธิ ในบางกรณี ผ้าม่านสามารถทำหน้าที่แทนบานประตูหรือฉากกั้นห้องชั่วคราวได้ เช่น ในร้านขายเสื้อผ้าที่มีห้องลองเสื้อแบบเปิด-ปิดง่าย ด้วยการติดตั้งรางม่านที่สามารถเลื่อนเข้าออกได้สะดวก อีกทั้งผ้าม่านยังช่วยลดการกระจายของเสียงและอุณหภูมิ ทำให้พื้นที่เล็กๆ เย็นเร็วขึ้นเมื่อใช้เครื่องปรับอากาศ และช่วยรักษาความอบอุ่นในห้องเมื่อปิดม่านในช่วงอากาศเย็น

3. ช่วยพลางสายตาจากคนภายนอกและภายใน

หากเป็นบ้านที่ปลูกใกล้ชิดกับเพื่อนบ้านมากๆ การใช้ผ้าม่านช่วยบดบังสายตาจากคนภายนอก เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนในบ้านได้ หรือถ้าหากรอบบริเวณบ้านของเรามีวิวสวยๆ ก็สามารถใช้ม่านโปร่งเพื่อโชว์วิวความงามจากภายนอกได้ หรือถ้าหากทัศนียภาพรอบบ้านไม่น่ามองนัก ผ้าม่านก็จะช่วยปิดบังทัศนียภาพนั้น ทำให้ลืมเรื่องวิวที่ไม่น่ามองไปเลย

4. ช่วยป้องกันเสียงและเก็บเสียงในระดับหนึ่ง

ผ้าม่าน บางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดเสียงจากภายนอก ทำให้ภายในห้องเงียบสงบขึ้น โดยเฉพาะผ้าม่านที่ทำจากผ้าที่มีเนื้อหนา เช่น ผ้าม่านกันเสียง หรือผ้าม่านที่บุด้วยวัสดุซับเสียง ซึ่งสามารถช่วยลดเสียงจากภายนอกที่เข้ามาภายในห้องได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับห้องนอน ห้องทำงาน หรือแม้แต่ห้องโฮมเธียเตอร์ที่ต้องการลดเสียงสะท้อนภายในห้อง นอกจากช่วยป้องกันเสียงจากภายนอกแล้ว ผ้าม่านยังช่วยลดเสียงสะท้อนภายในห้องได้อีกด้วย เช่น ในห้องที่มีพื้นที่กว้างและมีพื้นผิวแข็ง เช่น พื้นไม้ หรือพื้นกระเบื้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียงก้อง ผ้าม่านสามารถช่วยดูดซับเสียง ทำให้เสียงภายในห้องนุ่มนวลและชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในห้องที่มีการใช้งานเครื่องเสียง โทรทัศน์ หรือห้องประชุมที่ต้องการควบคุมคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น หากต้องการให้ผ้าม่านช่วยลดเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกผ้าม่านที่มีความหนา เช่น ผ้าม่าน 3 ชั้น หรือผ้าม่านที่มีการบุฉนวนกันเสียงเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยซับเสียงและลดเสียงรบกวนได้มากยิ่งขึ้น

5. ช่วยตกแต่งห้องให้สวยงาม

สำหรับการตกแต่งห้อง ผ้าม่านถือเป็นวัสดุที่ทำหน้าที่ได้ชัดเจนเช่นกัน ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับห้อง หรือเพิ่มความหรูหราได้ และหากห้องมีเพียงผนังทาสีอาจให้ความรู้สึกกระด้างและกดดัน ผ้าม่านจะช่วยให้บรรยากาศห้องดูเป็นกันเองมากขึ้น และเพิ่มชีวิตชีวาให้ห้องนั้นๆ ได้เช่นกัน หรือในกรณีที่ผนังห้องด้านข้างหน้าต่างหรือประตูมีรอยร้าวหรือรอยตำหนิ ก็สามารถใช้ผ้าม่านเพื่อปกปิดตำหนิของผนังได้โดยอาจจะเผื่อขนาดของผ้าม่านให้มากกว่าปกติเพื่อช่วยในการบังผนังในส่วนที่มีปัญหาได้ โดยการเลือกใช้ผ้าม่านที่เหมาะสมกับสไตล์ของบ้านหรือห้องจะช่วยเพิ่มความสวยงามและทำให้บ้านดูมีมิติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านโปร่งที่ให้ความรู้สึกเบาสบาย หรือผ้าม่านเนื้อหนาที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา ทั้งยังสามารถเลือกใช้สีและลวดลายของผ้าม่านเพื่อเสริมสไตล์การตกแต่งบ้านได้ตามความต้องการ


สรุปบทความ 7 แบบ ผ้าม่าน สวยๆเลือกยังไงให้เหมาะกับบ้านของคุณมากที่สุด

การเลือกผ้าม่านให้เหมาะกับบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังมีผลต่อบรรยากาศและการใช้งานภายในบ้านด้วย โดยแต่ละประเภทของผ้าม่านก็มีเอกลักษณ์และจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ม่านจีบ ที่ให้ความหรูหราและคลาสสิก เหมาะกับบ้านทุกสไตล์, ม่านตาไก่ ที่ดูโมเดิร์นและช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับห้อง, ม่านหูกระเช้า ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง, ม่านลอน ที่ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ หรือ ม่านม้วนและม่านพับ ที่เหมาะกับบ้านแนวโมเดิร์นและช่วยประหยัดพื้นที่ รวมไปถึง ม่านมู่ลี่ ที่สามารถปรับแสงได้ตามต้องการ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเลือกใช้ให้เข้ากับฟังก์ชันการใช้งานและสไตล์ของแต่ละห้องได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ผ้าม่านยังมีประโยชน์ที่มากกว่าความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ช่วยป้องกันแสงแดด ที่ส่องเข้ามาในบ้าน ช่วยให้ห้องไม่ร้อนเกินไปและยังช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์จากแสงแดดแรง ๆ ที่อาจทำให้สีซีดจางเร็วขึ้น, ช่วยแบ่งพื้นที่ภายในห้อง ให้เป็นสัดส่วนโดยไม่ต้องใช้ผนังกั้น เหมาะสำหรับคอนโดหรือบ้านที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งานพื้นที่, ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยสามารถป้องกันสายตาจากคนภายนอกได้ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้กับเพื่อนบ้านมาก ๆ, ช่วยลดเสียงรบกวน ทั้งจากภายนอกและเสียงสะท้อนภายในห้อง ทำให้บรรยากาศภายในบ้านสงบมากขึ้น และสุดท้าย ช่วยตกแต่งบ้านให้ดูมีสไตล์ โดยสามารถเลือกสี ลวดลาย และวัสดุของผ้าม่านให้เข้ากับบรรยากาศของห้อง ทำให้บ้านดูหรูหราขึ้น หรือให้ความรู้สึกอบอุ่นและน่าอยู่ ดังนั้น การเลือกผ้าม่านให้เหมาะสมกับบ้านไม่ใช่แค่เลือกจากดีไซน์ที่ชอบเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาถึง ฟังก์ชันการใช้งาน สไตล์ของบ้าน และประโยชน์ที่ต้องการ เพื่อให้ได้ม่านที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ซึ่งหากเพื่อน ๆ กำลังมองหาผ้าม่านที่เหมาะกับบ้านของตัวเอง อย่าลืมพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้ เพื่อให้การแต่งบ้านออกมาสวยงามลงตัว และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว