โต๊ะเครื่องแป้ง นับเป็นเฟอร์นิเจอร์สำคัญสำหรับคนที่ชอบแต่งหน้า แต่งตัว ยิ่งถ้าเป็นสาว ๆ ที่มีเครื่องประทินผิว เครื่องสำอาง และอุปกรณ์ทำผมเต็มไปหมด การมีโต๊ะเครื่องแป้งดี ๆ จะช่วยทำให้เก็บข้าวของได้เป็นระเบียบและสะดวกต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วโต๊ะเครื่องแป้งมักจะประกอบด้วย โต๊ะ ลิ้นชัก และบานกระจกที่ติดมาด้วย วันนี้ทางทีมงาน SPS HOME DESIGN ได้รวบรวบข้อมูล7 ไอเดียโต๊ะเครื่องแป้ง สวยๆ ดูมีสไตล์ เอาใจสาวๆ มาให้ชมดังนี้นะครับ
รวม 7 ไอเดีย โต๊ะเครื่องแป้ง สวยๆ
1. โต๊ะเครื่องแป้งมัลติฟังก์ชัน
ถ้าห้องแคบแต่ของเยอะ โต๊ะเครื่องแป้งแบบมัลติฟังก์ชันคือคำตอบ! ดีไซน์เก๋ตรงกระจกที่สามารถพับขึ้น-ลงได้ เมื่อเปิดกระจกขึ้นมา ด้านในมีช่องสำหรับเก็บของกระจุกกระจิก เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม หรือเครื่องประดับ ช่วยให้ทุกอย่างเป็นระเบียบ พอแต่งหน้าเสร็จแล้วก็พับกระจกลงมา กลายเป็นโต๊ะเรียบโล่งไว้ใช้งานอื่นได้อีก แถมทำความสะอาดง่าย ถูกใจสาวๆ ที่ชอบความมินิมอลแน่นอน
บทความน่าสนใจ :
2. โต๊ะเครื่องแป้งสวยหรูสไตล์เจ้าหญิง
ใครที่ชอบความหวานละมุนแบบเจ้าหญิง ต้องลองแต่งมุมเครื่องแป้งให้ดูวินเทจสุดหรู เลือกโต๊ะไม้สีขาวหรือครีม ดีไซน์คลาสสิก เพิ่มลูกเล่นด้วยลายฉลุสวยๆ ที่มือจับลิ้นชัก หรือขาโต๊ะ เพิ่มความหวานด้วยกระจกทรงโค้งมนสไตล์วินเทจ วางคู่กับเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่นุ่มๆ เสริมเชิงเทียนหรือแจกันดอกไม้เข้าไปอีกนิด รับรองว่าโต๊ะเครื่องแป้งของคุณจะดูเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายสุดๆ
3. โต๊ะเครื่องแป้ง มีไฟสุดเก๋
ถ้าอยากแต่งหน้าสวยเป๊ะทุกมุม ต้องมีไฟ! ลองหาโต๊ะเรียบๆ สักตัว แล้วติดกระจกบานใหญ่ พร้อมล้อมรอบด้วยไฟ LED แบบสตูดิโอ จะช่วยให้แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น เห็นสีเครื่องสำอางชัดเจน ไม่มีปัญหาหน้าหมองเวลาออกไปข้างนอก เพิ่มลิ้นชักเก็บของด้านข้าง หรือหาชั้นวางเครื่องสำอางเล็กๆ มาวางเสริม รับรองว่าสวยครบ จบในมุมเดียว
4. โต๊ะเครื่องแป้ง สไตล์เคาน์เตอร์แบรนด์
สำหรับสาวๆ ที่ชอบความหรูหราและการตกแต่งที่ดูเป็นมืออาชีพ โต๊ะเครื่องแป้งสไตล์เคาน์เตอร์แบรนด์คือคำตอบที่ดีสุด! เลือกโต๊ะที่มีดีไซน์เรียบหรู โทนสีดำหรือขาว มาพร้อมกับกระจกบานใหญ่ที่ติดตั้งแบบเต็มตัว เพิ่มไฟ LED รอบกระจกให้แสงดูเป็นธรรมชาติ ใช้ลิ้นชักหรือลิ้นชักเลื่อนเพื่อเก็บเครื่องสำอางให้เป็นระเบียบ ด้านล่างอาจใส่ชั้นวางของหรือพื้นที่เก็บของอื่นๆ ที่ดูสะอาดตาและมีสไตล์ เปลี่ยนมุมแต่งหน้าของคุณให้ดูเหมือนเคาน์เตอร์เครื่องสำอางในร้านแบรนด์ดังเลยค่ะ
5. โต๊ะเครื่องแป้งสไตล์มินิมอล
แต่งมุมโต๊ะเครื่องแป้งให้ดูอบอุ่นแบบสาวสายมินิมอล ด้วยการใช้กระจกทรงสูงพิงผนัง วางบนตู้ลิ้นชักไม้เรียบๆ ด้านบนตู้ใช้เป็นที่วางเครื่องสำอางที่ใช้บ่อย จัดวางให้เป็นระเบียบ แค่เลือกโทนสีเรียบง่าย เช่น ขาว ครีม หรือไม้ธรรมชาติ แล้วเติมต้นไม้เล็กๆ หรือเทียนหอมสักหน่อย ก็ได้มุมแต่งหน้าสไตล์ญี่ปุ่นเกาหลีที่ดูละมุนสุดๆ
บทความน่าสนใจ :
6. โต๊ะเครื่องแป้งแบบสตูดิโอ
สาวๆ สายแฟชั่นที่ต้องการแสงไฟเป๊ะปัง ต้องลองโต๊ะเครื่องแป้งสไตล์สตูดิโอ! เลือกโต๊ะกว้างหน่อย ด้านล่างมีที่เก็บของแบบเปิดโล่ง วางคู่กับกระจกยาวแนวนอน พร้อมติดไฟ LED รอบกระจก ให้แสงสว่างเต็มที่ ไม่ว่าจะยืนหรือหมุนซ้าย-ขวาก็แต่งหน้าได้แบบไม่มีเงามากวนใจ ดูแพงสุดๆ เหมือนได้แต่งหน้าหลังเวทีแฟชั่นโชว์สุดๆ
7. โต๊ะเครื่องแป้งสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู
ถ้าคุณชอบความเรียบหรูแต่ไม่ทิ้งความโมเดิร์น โต๊ะเครื่องแป้งสไตล์นี้จะทำให้ห้องของคุณดูทันสมัยและสวยงาม เลือกโต๊ะที่มีดีไซน์สะอาดตา ใช้โทนสีคูล เช่น ขาว เทา หรือดำ พร้อมขาโต๊ะที่ทำจากโลหะหรือวัสดุที่มีความเงางาม เลือกกระจกขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยม หรือวงกลมที่มีขอบเรียบๆ เพิ่มความมีสไตล์ด้วยไฟ LED ที่ติดรอบกระจกหรือบริเวณโต๊ะ ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่หรูหราและทันสมัย พร้อมทั้งมุมเก็บของที่ใช้งานได้จริงและทำให้พื้นที่ดูไม่รก เก็บทุกอย่างไว้ในที่ที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ
5 แนวทางการเลือก โต๊ะเครื่องแป้ง อย่างไรให้เหมาะกับห้องของคุณ
1.ขนาดของห้อง
ถ้าห้องของคุณมีพื้นที่จำกัด ควรเลือกโต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนังหรือแบบพับเก็บได้ เพื่อประหยัดพื้นที่และทำให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้น หรือถ้าห้องมีพื้นที่กว้างขึ้น อาจเลือกโต๊ะที่มีลิ้นชักเยอะ ๆ หรือมีชั้นวางของเพิ่มเติม เพื่อจัดเก็บเครื่องสำอางและของใช้ให้เป็นระเบียบ ไม่ต้องวางของกระจัดกระจายให้ดูรกสายตา
2.สไตล์ของโต๊ะและห้อง
ควรคำนึงถึงสไตล์ของห้องด้วย หากคุณแต่งห้องสไตล์มินิมอล ก็ควรเลือกโต๊ะเครื่องแป้งที่มีดีไซน์เรียบง่าย โทนสีอ่อน เช่น ขาว ครีม หรือลายไม้ธรรมชาติ จะช่วยเสริมให้ห้องดูอบอุ่นและเป็นระเบียบ หรือถ้าชอบสไตล์หรูหรา อาจเลือกโต๊ะเครื่องแป้งที่มีขอบตกแต่งสีทอง กระจกทรงหรู หรือวัสดุเงาวาวที่ช่วยเพิ่มความแพงให้กับห้องของคุณ
3.แสงสว่าง
แสงสว่างเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกโต๊ะเครื่องแป้ง หากห้องของคุณมีแสงธรรมชาติเข้าถึงดี ควรจัดวางโต๊ะใกล้หน้าต่างเพื่อให้สามารถแต่งหน้าได้ง่ายและช่วยประหยัดพลังงาน แต่ถ้าห้องค่อนข้างมืดหรือไม่มีแสงธรรมชาติ ควรเลือกโต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกติดไฟในตัว หรือเพิ่มโคมไฟเล็ก ๆ บริเวณโต๊ะเพื่อให้แสงเพียงพอสำหรับการแต่งหน้า
4.วัสดุของ โต๊ะเครื่องแป้ง
วัสดุของโต๊ะก็มีผลต่อการใช้งาน หากต้องการความทนทานและดูแลง่าย แนะนำให้เลือกโต๊ะที่ทำจากไม้ MDF หรือไม้จริงเคลือบผิวกันน้ำ เพื่อให้สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ส่วนคนที่ชอบความโมเดิร์น อาจเลือกวัสดุอย่างกระจกหรือโลหะที่ให้ความรู้สึกทันสมัยและเก๋ไก่มากขึ้น
5.ฟังก์ชันการใช้งาน โต๊ะเครื่องแป้ง
หากคุณมีเครื่องสำอางเยอะ ควรเลือกแบบที่มีลิ้นชักหลายช่องหรือมีที่เก็บของเป็นสัดส่วนเพื่อให้สามารถแยกเก็บของใช้ได้ง่าย เช่น มีช่องใส่แปรงแต่งหน้า ลิ้นชักสำหรับใส่เครื่องสำอาง และพื้นที่วางน้ำหอม หรือถ้าเป็นสายมินิมอล ใช้เครื่องสำอางไม่เยอะ อาจเลือกโต๊ะขนาดกะทัดรัดที่มีแค่กระจกและพื้นที่วางของเล็ก ๆ เพื่อไม่ให้เกินความจำเป็น
บ้านแต่ละสไตล์ เหมาะกับ โต๊ะเครื่องแป้ง แบบไหนบ้าง ?
1. ห้องสไตล์มินิมอล
ห้องแนวมินิมอลเน้นความเรียบง่าย โปร่งโล่ง และดูสบายตา ดังนั้น โต๊ะเครื่องแป้งที่เหมาะสมควรเป็นแบบเรียบ ๆ ดีไซน์ไม่ซับซ้อน ใช้วัสดุไม้สีธรรมชาติหรือโทนสีขาว ครีม หรือเบจ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศโดยรวม โต๊ะเครื่องแป้งแบบติดผนังหรือแบบไม่มีลิ้นชักจะช่วยให้ห้องดูไม่รก และยังช่วยประหยัดพื้นที่สำหรับคนที่มีห้องขนาดเล็ก กระจกที่ใช้ควรเป็นทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมแบบไม่มีกรอบ เพื่อให้ดูโปร่ง ไม่หนักสายตา ถ้าต้องการเพิ่มความน่าสนใจ อาจเลือกโต๊ะที่มีขาเหล็กสีดำหรือสีทองเพื่อเพิ่มความคอนทราสต์ให้กับห้อง และเลือกเก้าอี้แบบเรียบง่ายหรือสตูลเล็ก ๆ ที่สามารถเก็บซ่อนได้เพื่อไม่ให้ดูเกะกะ
2. ห้องสไตล์โมเดิร์น
ห้องแนวโมเดิร์นจะเน้นความทันสมัย ใช้เส้นสายที่ชัดเจนและวัสดุที่ดูหรูหรา ดังนั้น โต๊ะเครื่องแป้งที่เหมาะสมควรมีดีไซน์ที่ดูเรียบหรู ใช้วัสดุที่มีความเงาวาว เช่น โต๊ะกระจก ขอบสแตนเลสสีเงินหรือสีทอง หรือไม้เคลือบไฮกลอส เพื่อให้ห้องดูมีมิติและสะท้อนแสงได้ดี โต๊ะเครื่องแป้งแบบมีไฟ LED ในตัว หรือแบบที่มีกระจกขอบไฟจะช่วยให้การแต่งหน้าในห้องที่มีแสงน้อยสะดวกขึ้น และยังเพิ่มความหรูหราให้กับพื้นที่ โต๊ะควรมีลิ้นชักซ่อนเพื่อเก็บของให้เป็นระเบียบ และเลือกเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่หรือหนังสีเข้ม เช่น เทา ดำ หรือขาว เพื่อเสริมลุคที่ดูแพงและทันสมัย
3. ห้องสไตล์ลักชัวรี่
ห้องแนวลักชัวรี่เน้นความหรูหราและรายละเอียดที่ประณีต ดังนั้น โต๊ะเครื่องแป้งที่เหมาะควรเลือกแบบที่มีดีไซน์สง่างาม เช่น โต๊ะไม้สีเข้ม ขอบทอง หรือวัสดุหินอ่อนที่ให้ความรู้สึกหรูหรา โต๊ะอาจมีลายฉลุหรือลวดลายเล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความคลาสสิก กระจกควรมีขอบสีทองหรือขอบโลหะที่มีลวดลายเล็กน้อยเพื่อให้ดูโดดเด่นขึ้น อาจเลือกโต๊ะที่มีไฟในตัวหรือมุมเก็บของแบบบิลท์อินเพื่อให้ดูเป็นสัดส่วนและหรูหรายิ่งขึ้น เก้าอี้ควรเป็นแบบบุผ้ากำมะหยี่หรือหนังแท้ที่ให้สัมผัสนุ่มนวล และถ้าอยากเพิ่มความอลังการ อาจวางแจกันดอกไม้หรือเชิงเทียนสวย ๆ บนโต๊ะเพื่อให้ดูหรูหรามากขึ้น
4. ห้องสไตล์วินเทจ
ห้องวินเทจมีเสน่ห์ในตัวเองด้วยความคลาสสิกและรายละเอียดที่ประณีต โต๊ะเครื่องแป้งที่เหมาะกับสไตล์นี้ควรเลือกแบบที่มีขาโค้งมนหรือมีลวดลายแกะสลักเล็ก ๆ ใช้โทนสีพาสเทลหรือสีขาวครีมที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยนและอบอุ่น วัสดุควรเป็นไม้แท้หรือไม้ที่ผ่านการขัดแต่งให้ดูมีเท็กซ์เจอร์แบบธรรมชาติ กระจกควรเป็นทรงกลมหรือทรงไข่ มีขอบลวดลายเล็ก ๆ เพื่อให้ดูมีเสน่ห์แบบย้อนยุค อาจเลือกโต๊ะที่มีลิ้นชักเล็ก ๆ หลายช่องสำหรับเก็บของและเพิ่มความเป็นระเบียบ เก้าอี้ที่เข้าชุดกันควรเป็นแบบบุผ้า หรือถ้าเป็นไม้ก็ควรมีลายฉลุเล็ก ๆ เพื่อเสริมบรรยากาศวินเทจ
5. ห้องสไตล์เกาหลี
ห้องสไตล์เกาหลีเน้นความอบอุ่นและเรียบง่ายแต่ยังคงดูมีสไตล์ โต๊ะเครื่องแป้งที่เหมาะสมควรมีดีไซน์เล็กกะทัดรัด วัสดุส่วนใหญ่ทำจากไม้สีอ่อนหรือไม้ลายธรรมชาติ โต๊ะอาจเป็นแบบไม่มีลิ้นชัก หรือมีเพียง 1-2 ลิ้นชักเล็ก ๆ สำหรับเก็บของ กระจกควรเป็นทรงกลมขนาดไม่ใหญ่มากและมีกรอบไม้เพื่อให้เข้ากับสไตล์โดยรวม เก้าอี้ควรเป็นแบบไม้ที่เข้าชุดกัน หรืออาจเป็นสตูลเบาะผ้านุ่ม ๆ เพิ่มความสบาย โต๊ะเครื่องแป้งแนวเกาหลีมักจะวางของตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น โคมไฟเล็ก แจกันดอกไม้ หรือกล่องใส่เครื่องสำอางแบบมินิมอลเพื่อให้ดูน่ารักและมีสไตล์
6. ห้องสไตล์ญี่ปุ่น (Japandi)
ห้องแนว Japandi เป็นการผสมผสานระหว่างความมินิมอลของญี่ปุ่นและสไตล์สแกนดิเนเวียน โต๊ะเครื่องแป้งที่เหมาะควรเป็นแบบเตี้ยหรือแบบพื้นฐานที่เน้นความเรียบง่าย วัสดุส่วนใหญ่มักเป็นไม้สีอ่อนแบบธรรมชาติ หรือไม้ไผ่เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของห้อง กระจกควรเป็นทรงกลม หรืออาจติดกับผนังแบบไม่มีกรอบเพื่อให้ดูกลมกลืน โต๊ะอาจไม่มีลิ้นชัก หรือมีเพียง 1-2 ช่องเล็ก ๆ สำหรับเก็บของที่จำเป็น เน้นการจัดโต๊ะให้โล่งและเป็นระเบียบ อาจมีถาดไม้เล็ก ๆ สำหรับวางเครื่องสำอาง และเก้าอี้ควรเป็นแบบไม่มีพนักพิง หรือใช้เบาะรองนั่งแบบญี่ปุ่นเพื่อให้เข้ากับสไตล์ของห้อง
7. ห้องสไตล์โบฮีเมียน (Bohemian)
ห้องสไตล์โบฮีเมียนเต็มไปด้วยความเป็นอิสระและศิลปะ โต๊ะเครื่องแป้งที่เหมาะควรเลือกแบบที่มีลวดลายเล็ก ๆ หรือเป็นงานไม้สไตล์วินเทจที่ดูมีเท็กซ์เจอร์ อาจเลือกโต๊ะที่มีการเพ้นท์ลายหรือมีสีสันเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความโดดเด่น กระจกควรเป็นทรงกลมหรือทรงอิสระที่มีขอบไม้สานหรือขอบหวายเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ อาจตกแต่งโต๊ะด้วยผ้าปูโต๊ะลายชนเผ่า หรือวางของตกแต่งเช่น เทียนหอม แจกันดอกไม้ป่า หรือกล่องเก็บเครื่องประดับแบบแฮนด์เมด เก้าอี้ควรเป็นแบบหวายหรือแบบไม้ที่มีดีไซน์เป็นธรรมชาติ เพื่อให้เข้ากับสไตล์โบฮีเมียนที่เน้นความผ่อนคลายและเป็นกันเอง