สีห้องนอนสไตล์โมเดิร์น ที่จะช่วยเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ทั้งสวย ทันสมัย และน่าอยู่ ใครที่อยากแต่งห้องนอนให้ดูดีแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีอบอุ่น เท่ๆ หรือหรูหรา บทความนี้มีคำตอบให้ครบ! เตรียมไอเดียดีๆ ไว้ให้แล้ว มาดูกันเลยว่าห้องนอนแบบไหนที่ใช่สำหรับเพื่อนๆ ครับ! วันนี้ทางทีมงาน SPS HOME DESIGN ได้รวบรวมข้อมูล 7 ไอเดีย สีห้องนอนสไตล์โมเดิร์น สร้างบรรยากาศให้สวยงาม น่าพักผ่อน มาให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ
รวม 7 ไอเดีย สีห้องนอนสไตล์โมเดิร์น สุดปัง

1. สีเอิร์ธโทน อบอุ่น ดูดี ไม่มีเบื่อ
สีเอิร์ธโทนเป็นตัวเลือกสุดคลาสสิกที่ไม่เคยตกยุค เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา และเป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเฉดน้ำตาล เทา ครีม หรือสีดินโคลน ทั้งหมดนี้ช่วยให้ห้องดูมีมิติและน่านอนได้มากขึ้น แถมยังจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือของตกแต่งสไตล์มินิมอลได้ง่ายสุดๆ ใครที่อยากให้ห้องนอนดูนุ่มนวล ผ่อนคลาย และให้ฟีลเหมือนอยู่ในคาเฟ่สวยๆ สีนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ
บทความน่าสนใจ :
2.สีขาว เรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบายสุดๆ
สีขาวเป็นตัวเลือกสุดคลาสสิกที่ไม่ว่าใช้กับห้องไหนก็เอาอยู่ โดยเฉพาะห้องนอนที่ต้องการความสบายและความรู้สึกโปร่งโล่ง สีขาวช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และยังเป็นพื้นหลังที่ดีสำหรับของตกแต่งทุกสไตล์ จะจับคู่กับสีไม้ สีดำ สีเทา หรือแม้แต่สีพาสเทลก็ดูดีหมด นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกสะอาดตา เป็นระเบียบ และช่วยให้บรรยากาศห้องดูผ่อนคลายสุดๆ คนที่ชอบความเรียบง่ายและความ minimal luxury ต้องลองสีนี้เลยครับ
3. สีเทา เรียบหรู ดูแพง และใช้งานง่ายสุดๆ
สีเทาเป็นหนึ่งในสีที่ใช้แต่งห้องแล้วให้ฟีลโมเดิร์นมากที่สุด เพราะมันให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูดี และมีสไตล์แบบไม่ต้องพยายามเยอะ ถ้าอยากให้ห้องดูอบอุ่นหน่อยก็เลือกสีเทาอ่อน ถ้าอยากให้ดูเท่ๆ ดิบๆ ก็จัดเทาเข้มไปเลย อีกข้อดีของสีนี้คือ มันเข้าได้กับเฟอร์นิเจอร์แทบทุกสไตล์ จะเป็นไม้ กระจก หรือเหล็ก ก็ลงตัวไปหมด เหมาะกับคนที่อยากให้ห้องดูเป็นระเบียบและดูแพงแบบ effortless
4. สีน้ำตาลมะฮอกกานี คลาสสิกและมีเสน่ห์แบบมีระดับ
ใครที่อยากได้ห้องนอนที่ให้ฟีลหรูหรา อบอุ่น และดูแพงแบบพอดีๆ สีน้ำตาลมะฮอกกานีคือคำตอบ! โทนนี้มีความหนักแน่นและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติในแบบที่ดู sophisticated สุดๆ การใช้สีนี้กับผนัง เฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือของตกแต่งสีทองแดงและทองเหลือง จะยิ่งเพิ่มความหรูหราและทำให้ห้องดูแพงขึ้นอีกหลายระดับ เป็นสีที่ให้ความรู้สึกน่านอนมากๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศห้องสไตล์โรงแรมหรู
บทความน่าสนใจ :
5. สีจากลวดลายของหินธรรมชาติ ดิบ และหรูหรา ดูมีมิติสุดๆ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบความโมเดิร์นแบบมี texture การใช้สีและลวดลายของหินธรรมชาติ เช่น หินอ่อน หินแกรนิต หรือหินลายสวยๆ มาเป็นองค์ประกอบหลักของห้อง จะช่วยเพิ่มความหรูหราแบบทันสมัยได้แบบไม่ต้องเยอะ แถมยังให้ความรู้สึกเย็นสบายและดู unique ไม่เหมือนใครอีกด้วย การใช้สีนี้คู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้หรือโทนสีเข้ม จะทำให้ห้องดูสมดุลและมีมิติมากขึ้น
6. สีเบส นุ่มนวล อบอุ่น และมินิมอลสุดๆ
สีเบจเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบซอฟต์ๆ เหมาะกับคนที่ชอบความเรียบง่ายแต่น่ามอง โทนนี้ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ดูสว่างขึ้น และทำให้บรรยากาศโดยรวมรู้สึกสงบ ผ่อนคลายมากขึ้น เหมาะกับการแต่งคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อน หรือของตกแต่งที่เป็นผ้าลินิน ผ้าฝ้าย จะยิ่งเพิ่มความ cozy เข้าไปอีก สีนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยากได้ห้องนอนสไตล์มินิมอลแต่ไม่ดูเรียบเกินไป
7. สีเขียวมิ้น สดชื่นและมีชีวิตชีวาแบบไม่เลี่ยน
ถ้าเพื่อนๆ เป็นสายธรรมชาติและอยากให้ห้องนอนมีความสดชื่นแบบไม่จำเจ สีเขียวมิ้นเป็นตัวเลือกที่ดีมาก! มันให้ความรู้สึกสบายตา สดใส แต่ไม่ได้แรงเกินไปเหมือนสีเขียวเข้มๆ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง แถมยังช่วยให้บรรยากาศภายในห้องดูผ่อนคลายและเย็นสบายขึ้นอีกด้วย สีนี้เหมาะกับคนที่อยากได้ความสดชื่นแต่ก็ยังคงความมินิมอลและความเป็นโมเดิร์นเอาไว้อยู่
บทความน่าสนใจ :
การใช้ สีห้องนอนสไตล์โมเดิร์น ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ?
1. โทนสีที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
ห้องนอนคือพื้นที่สำหรับพักผ่อน ดังนั้นสีที่เลือกควรช่วยให้รู้สึกสงบ และช่วยให้หลับสบาย ซึ่งโดยทั่วไปโทนสีที่เหมาะกับห้องนอนสไตล์โมเดิร์น ได้แก่
- โทนสีเอิร์ธโทน (Earth Tone) เช่น น้ำตาล เบจ เทาอ่อน ให้ความอบอุ่นและสบายตา
- โทนสีเย็น (Cool Tone) เช่น เขียวมิ้น ฟ้าอ่อน เทา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและช่วยลดความเครียด
- โทนสีโมโนโครม (Monochrome) เช่น ขาว ดำ เทา เพิ่มความทันสมัยและดูแพง
หลีกเลี่ยงสีที่สว่างหรือฉูดฉาดเกินไป เช่น สีแดงสด สีส้ม หรือสีเหลืองเข้ม เพราะอาจทำให้รู้สึกกระตุ้นเกินไปและรบกวนการนอน
2. การจับคู่สีให้เข้ากับสไตล์โมเดิร์น
สไตล์โมเดิร์นมักเน้นความเรียบง่ายและมีความสมดุลของสี เพื่อให้ห้องดูทันสมัยและไม่รกสายตา การจับคู่สีที่ดีจะช่วยให้ห้องดูลงตัวขึ้น เช่น
- สีขาว + เทา → ให้ความรู้สึกสะอาด โปร่ง และสบายตา
- สีเบจ + น้ำตาลมะฮอกกานี → ให้ความรู้สึกอบอุ่นและดูหรู
- สีดำ + เทาเข้ม + ไม้สีอ่อน → ลุคโมเดิร์นลักชัวรี่ ที่ดูแพงแต่ยังอบอุ่น
- สีเขียวมิ้น + สีขาว → ให้ความรู้สึกสดชื่นและช่วยให้ห้องดูโปร่ง
3. พื้นที่และขนาดของห้อง
สีมีผลต่อการรับรู้ขนาดของห้อง เช่น
- ห้องขนาดเล็ก → ใช้สีอ่อน เช่น ขาว ครีม เทาอ่อน เพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น
- ห้องขนาดใหญ่ → สามารถใช้สีเข้มขึ้น เช่น เทาเข้ม มะฮอกกานี หรือสีดำ เพื่อเพิ่มความลึกและความหรูหรา
ถ้าห้องเล็กแต่ชอบสีเข้ม ลองใช้ เทคนิคทาสีผนังด้านเดียว (Accent Wall) เช่น ทาผนังหัวเตียงเป็นสีเข้ม แล้วให้ผนังที่เหลือเป็นสีอ่อน จะช่วยให้ห้องไม่ดูทึบเกินไป
4. แสงธรรมชาติและแสงไฟในห้อง
แสงมีผลต่อการมองเห็นสีของห้อง ถ้าเพื่อนๆ เคยเลือกสีแล้วทาออกมาไม่เหมือนตัวอย่างที่เห็นในร้าน นั่นเป็นเพราะแสงมีผลต่อเฉดสีที่มองเห็น
- ห้องที่มีแสงธรรมชาติเยอะ → ใช้สีเข้มได้โดยไม่ทำให้ห้องดูอึดอัด
- ห้องที่มีแสงน้อย → ควรเลือกสีอ่อนหรือสีโทนอุ่น เพื่อให้ห้องดูสว่างขึ้น
- การเลือกแสงไฟ → แนะนำให้ใช้แสง Warm White (2700K-3000K) เพื่อให้ห้องดูอบอุ่นและน่านอน
5. พื้น ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ ต้องไปด้วยกัน
การเลือกสีห้องนอนไม่ใช่แค่ผนัง แต่ต้องดูว่ามันเข้ากับพื้น ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์หรือเปล่า เช่น
- ถ้าพื้นไม้สีอ่อน → สามารถใช้ผนังสีเข้มหรือเอิร์ธโทนเพื่อให้ตัดกัน
- ถ้าพื้น SPC สีอ่อน (เช่น สีเบจ หรือเทาอ่อน) → เลือกสีห้องในโทนอ่อนเพื่อให้ดูกลมกลืน
- ถ้าเฟอร์นิเจอร์สีเข้ม → ผนังสีอ่อนจะช่วยให้ห้องไม่ดูหนักเกินไป
นอกจากนี้ การใช้ลวดลายของหินธรรมชาติ เช่น วอลเปเปอร์ลายหินอ่อน หรือผนังตกแต่งที่เป็นลายหิน ช่วยเพิ่มมิติให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น
6. อารมณ์และสไตล์ที่ต้องการ
- อยากให้ห้องดูแพงและหรูหรา → ใช้สีดำ เทาเข้ม หรือสีน้ำตาลมะฮอกกานี ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มหรือโลหะสีทอง
- อยากให้ห้องดูมินิมอลและสบายตา → ใช้สีขาว ครีม หรือสีเบจ แล้วตกแต่งด้วยไม้สีอ่อน
- อยากให้ห้องดูสดชื่นและใกล้ชิดธรรมชาติ → ใช้สีเขียวมิ้น หรือโทนเอิร์ธโทน ร่วมกับต้นไม้ตกแต่ง
สีห้องนอนสไตล์โมเดิร์น : องค์ประกอบที่ต้องมีเมื่อต้องการตกแต่งให้สวยลงตัว
1. โทนสีห้อง – กำหนดบรรยากาศของห้อง
สีเป็นสิ่งแรกที่ต้องคิด เพราะมันส่งผลโดยตรงกับบรรยากาศโดยรวมของห้อง ควรเลือกสีที่เหมาะกับสไตล์และความรู้สึกที่ต้องการ เช่น
- โทนสีอบอุ่น (เช่น น้ำตาล ครีม เบจ) – ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับสไตล์มินิมอลและ Japandi
- โทนสีเย็น (เขียวมิ้น เทา ฟ้าอ่อน) – ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและให้ความรู้สึกสงบ
- โทนสีเข้ม (เทาเข้ม ดำ น้ำตาลมะฮอกกานี) – เพิ่มความหรูหราและลึกลับระดับพรีเมียม
แนะนำให้เลือก สีที่ทำให้นอนสบายและไม่รู้สึกอึดอัด หรืออาจใช้วอลเปเปอร์หรือลวดลายหินธรรมชาติเข้ามาเพิ่มความโดดเด่น
2. เตียงและที่นอน – หัวใจหลักของห้องนอน
เตียงเป็นจุดศูนย์กลางของห้องนอน ควรเลือกให้เหมาะกับขนาดห้องและสไตล์ตกแต่ง เช่น
- เตียงไม้ – ให้ความอบอุ่น เหมาะกับสไตล์มินิมอล Japandi หรือสไตล์ธรรมชาติ
- เตียงบุผ้ากำมะหยี่หรือหนัง – เพิ่มความหรูหรา เหมาะกับสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่
- เตียงลอยตัว (Floating Bed) – ดูโมเดิร์นและช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น
ที่สำคัญ ต้องเลือกที่นอนที่รองรับสรีระดีๆ จะเป็นสปริง เมมโมรี่โฟม หรือยางพาราก็แล้วแต่ความชอบ เพราะนอนสบาย = คุณภาพชีวิตดีขึ้น
3. เฟอร์นิเจอร์หลัก – เพิ่มฟังก์ชันและความสวยงาม
- โต๊ะข้างเตียง (Nightstand) – ใช้วางโคมไฟ นาฬิกา หรือของใช้จำเป็น
- ตู้เสื้อผ้า – ถ้าห้องเล็ก แนะนำตู้บิ้วอินหรือบานเลื่อน จะช่วยประหยัดพื้นที่
- โต๊ะเครื่องแป้ง หรือมุมทำงาน – ถ้าเป็นคนแต่งหน้า หรือทำงานในห้อง ควรมีพื้นที่เฉพาะ
- โซฟาหรือมุมพักผ่อน – เพิ่มความชิลและทำให้ห้องดูแพงขึ้น
- ชั้นวางของ / ตู้เก็บของ – เก็บของให้เป็นระเบียบ ทำให้ห้องดูโล่งขึ้น
Tips: ถ้าเป็นสไตล์มินิมอล ใช้เฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้น แต่เลือกแบบที่มีฟังก์ชันเยอะ
4. ผ้าม่าน – คุมแสงและเพิ่มความอบอุ่น
ผ้าม่านเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้วมีผลกับบรรยากาศห้องมาก
- ม่านโปร่ง (Sheer Curtain) – ให้แสงธรรมชาติเข้ามา ทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง
- ม่านทึบ (Blackout Curtain) – เหมาะกับคนที่ต้องการความมืดสนิทเวลานอน
- ม่าน 2 ชั้น – ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน คุมแสงได้ดี
ถ้าอยากได้ฟีลโรงแรม ลองเลือกม่านยาวแตะพื้น จะทำให้ห้องดูหรูขึ้น
5. โคมไฟและแสงไฟ – ปรับอารมณ์ของห้อง
แสงไฟช่วยกำหนดอารมณ์ของห้องได้เยอะมาก แนะนำให้มีไฟหลายจุด เช่น
- ไฟหลัก (Ceiling Light) – ควรเลือกแสงสี Warm White (ไม่เหลืองเกินไป) จะช่วยให้ห้องดูน่านอน
- โคมไฟข้างเตียง (Bedside Lamp) – เหมาะกับการอ่านหนังสือและเพิ่มความอบอุ่น
- ไฟซ่อนใต้เตียงหรือเฟอร์นิเจอร์ (LED Strip) – เพิ่มมิติและทำให้ห้องดูโมเดิร์นขึ้น
- โคมไฟตั้งพื้น หรือไฟหรี่ (Dimmable Light) – ช่วยปรับบรรยากาศให้ผ่อนคลาย
6. เครื่องนอนและหมอน – เสริมบรรยากาศให้น่านอน
หมอน ผ้าปูที่นอน และผ้าห่ม ควรเลือกเนื้อผ้าที่นุ่มสบาย เช่น
- ผ้าฝ้ายแท้ (Cotton 100%) – ระบายอากาศดี นอนแล้วไม่ร้อน
- ผ้าไหม หรือลินิน – เพิ่มความหรูหราและสัมผัสที่ดีต่อผิว
- หมอนหนุน และหมอนข้าง – เลือกตามสรีระเพื่อให้หลับสบายขึ้น
โทนสีเครื่องนอน ควรเลือกให้เข้ากับสีห้อง เช่น ถ้าห้องสีเข้ม ใช้เครื่องนอนสีอ่อน หรือถ้าห้องสว่าง ใช้เครื่องนอนสีเทาหรือเบจก็จะช่วยให้ดูแพงขึ้น
7. พรมและของตกแต่ง – เติมบรรยากาศให้สมบูรณ์
- พรมข้างเตียง – ทำให้ห้องดู cozy และช่วยให้พื้นไม่เย็นเกินไป
- รูปภาพหรือกรอบรูป – ติดภาพศิลปะ หรือภาพที่ชอบ ทำให้ห้องดูมีสไตล์ขึ้น
- ต้นไม้ฟอกอากาศ – เช่น ไทรใบสัก ลิ้นมังกร มอนสเตอร่า เพิ่มความสดชื่นให้ห้อง
Tips: ถ้าอยากได้ห้องที่ดูโมเดิร์นและสบายตา ให้เลือกของตกแต่งที่น้อยแต่เน้นคุณภาพ
8. กลิ่นหอมและเสียง – ปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลาย
บรรยากาศของห้องนอนไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่สิ่งที่มองเห็น แต่ กลิ่นและเสียง ก็มีผลต่อความรู้สึกด้วย
- เครื่องกระจายกลิ่น / Diffuser – ใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์หรือไม้ซีดาร์ เพื่อช่วยให้หลับลึกขึ้น
- เครื่องฟอกอากาศ – กรองฝุ่น PM2.5 และทำให้อากาศในห้องสะอาด
- เครื่องเล่นเสียง หรือ White Noise Machine – ลดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้หลับได้ดีขึ้น