ต้นไม้ฟอกอากาศ เป็นพืชที่ยอดนิยมนำมาปลูกในบ้านเเละคอนโดในปัจจุบันอย่างมาก นอกจากจะเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน หรือภายในห้องแล้ว ยังช่วยดักจับฝุ่นละอองต่างๆ และยังช่วยฟอกอากาศอีกด้วย วันนี้ทางทีมงาน SPS HOME DESIGN จึงด้รวบรวบข้อมูลเกี่ยวกับ 10 ต้นไม้ฟอกอากาศ ปลูกในบ้าน ห้องนอน เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น มาให้ชมดังนี้นะครับ
ต้นไม้ฟอกอากาศ มีลักษณะอย่างไร ?
จากข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า การปลูกต้นไม้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดักจับสารพิษในอากาศ และสามารถป้องกันฝุ่นละออง เพราะส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ โดยเฉพาะใบ สามารถช่วยดักฝุ่นได้ดี ซึ่งฝุ่นละอองที่ลอยอยู่บนอากาศจะผ่านต้นไม้ติดค้างอยู่บนผิวใบ โดยพืชตระกูลสนจะช่วยดักจับฝุ่นได้ เพราะโครงสร้างของใบมีความละเอียดซับซ้อน แต่หากเป็นไม้เลื้อยจะดักจับฝุ่นได้มากกว่าไม้อื่น เพราะมีพื้นผิวใบมากกว่าต้นไม้อื่น ด้วยลักษณะใบที่เรียวเล็ก ชื้น หยาบ มีขน หรือผิวใบที่เหนียวจะทำให้ฝุ่นเกาะติดใบได้ดี ส่วนลำต้น กิ่งก้านที่มีโครงสร้างพันกันอย่างสลับซับซ้อนมีส่วนช่วยดักจับฝุ่นได้เช่นกัน
10 ต้นไม้ฟอกอากาศ ยอดฮิต แต่ละชนิดมีลักษณะ จุดเด่นเเละดูเเลอย่างไรบ้าง ?
1. ต้นเดหลี
ต้นเดหลีเป็นไม้ประดับที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยใบสีเขียวเข้มเงางามตัดกับดอกสีขาวบริสุทธิ์ที่มีรูปร่างคล้ายดอกหน้าวัว ทำให้ต้นไม้ชนิดนี้ดูหรูหราและสวยงามเมื่ออยู่ภายในบ้าน นอกจากช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับห้องแล้ว เดหลียังมีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารพิษ เช่น เบนซีน ฟอร์มัลดีไฮด์ และแอมโมเนียได้ดี จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับปลูกในห้องนอนหรือมุมพักผ่อนของบ้าน
✅ แสงแดด: แสงรำไร หรือแสงแดดอ่อน ๆ หลีกเลี่ยงแดดจัดโดยตรง
💧 น้ำ: รดน้ำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ดินควรชื้นแต่ไม่แฉะ
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น, ห้องน้ำ
✨ เหตุผล: ต้นเดหลีช่วยฟอกอากาศและดูดซับสารพิษ แถมยังช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้ห้องสดชื่นและน่านอนมากขึ้น
2. ต้นพลูด่าง
พลูด่างเป็นไม้เลื้อยยอดนิยมที่ปลูกง่ายและเติบโตเร็ว สามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ ลักษณะใบมีสีเขียวสลับเหลือง ดูสดใสและช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่รอบตัว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษจากอากาศ เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ พลูด่างเหมาะสำหรับแขวนในกระถาง หรือปล่อยให้เลื้อยไต่ขึ้นไปตามเสาและผนัง เพิ่มมิติและความเป็นธรรมชาติให้กับบ้านได้อย่างลงตัว
✅ แสงแดด: แสงรำไร หรือแดดอ่อน เติบโตได้ดีแม้ในที่มีแสงน้อย
💧 น้ำ: รดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทิ้งให้ดินแห้งก่อนรดน้ำรอบต่อไป
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น, ห้องครัว, ห้องน้ำ, ห้องทำงาน
✨ เหตุผล: เป็นไม้เลื้อยที่เลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก สามารถแขวนหรือตั้งโต๊ะก็ได้ เหมาะกับทุกห้องเพราะช่วยฟอกอากาศได้ดี
3. ต้นเศรษฐีเรือนใน
เศรษฐีเรือนในเป็นไม้ใบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใบของมันเรียวยาวสีเขียวแซมด้วยเส้นสีขาวดูสวยงามสะดุดตา และยังมีลูกไม้เล็ก ๆ งอกออกมาตามกิ่ง ดูน่ารักไปอีกแบบ จุดเด่นของต้นนี้คือสามารถช่วยดูดซับสารพิษที่เกิดจากควันบุหรี่ หรือมลพิษทางอากาศได้ดีมาก นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ไม่ต้องการน้ำมาก สามารถอยู่ได้แม้ในที่ที่มีแสงน้อย
✅ แสงแดด: แสงแดดรำไร หรือบริเวณที่มีแสงธรรมชาติ แต่ไม่ควรโดนแดดจัด
💧 น้ำ: รดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ รดเมื่อดินเริ่มแห้ง
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน, ห้องน้ำ
✨ เหตุผล: เป็นไม้แขวนที่ดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศและลดสารพิษในอากาศได้ดี
4. ต้นสาวน้อยประแป้ง
ต้นสาวน้อยประแป้งเป็นไม้ประดับที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ใบมีลวดลายสวยงามเป็นจุดสีขาวกระจายทั่วใบ ทำให้ดูโดดเด่นเมื่อนำไปปลูกในบ้าน นอกจากความสวยงามแล้ว ยังช่วยดูดซับสารพิษในอากาศ เช่น ไซลีน และฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งพบในเฟอร์นิเจอร์และสีทาบ้าน ต้นนี้เหมาะสำหรับวางประดับในห้องนั่งเล่น หรือมุมต่าง ๆ ของบ้าน เพิ่มเสน่ห์และความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
✅ แสงแดด: แสงรำไร หรือแสงแดดอ่อน หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
💧 น้ำ: รดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ดินควรมีความชื้นสม่ำเสมอ
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน
✨ เหตุผล: ใบมีลวดลายสวยงาม ช่วยเพิ่มความสดชื่นและฟอกอากาศได้ดี แต่ควรวางให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง เพราะใบมีสารพิษ
5. ต้นดราแคนนา
ดราแคนนาเป็นไม้ประดับที่มีความหลากหลายของสายพันธุ์ และแต่ละสายพันธุ์ก็มาพร้อมกับความสวยงามที่แตกต่างกัน เช่น ใบเรียวยาวสีเขียวขอบแดง หรือใบสีเหลืองสลับเขียว เป็นต้น นอกจากให้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยดูดซับสารพิษจากเครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น เบนซีน และไตรคลอโรเอทิลีน ซึ่งมักพบในกาวและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เป็นต้นไม้ที่สามารถปลูกในกระถางและตกแต่งภายในบ้านให้ดูมีสไตล์มากขึ้น
✅ แสงแดด: แสงแดดรำไร หรือแดดอ่อน สามารถอยู่ในที่มีแสงน้อยได้
💧 น้ำ: รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรรดน้ำบ่อยเกินไป เพราะรากอาจเน่า
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน
✨ เหตุผล: เป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี เหมาะสำหรับตกแต่งในบ้านและออฟฟิศ
6. ต้นลิ้นมังกร
ลิ้นมังกรเป็นหนึ่งในต้นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีความสามารถพิเศษในการดูดซับสารพิษในอากาศ และยังช่วยผลิตออกซิเจนในเวลากลางคืน ทำให้เหมาะกับการปลูกในห้องนอน ใบของลิ้นมังกรมีความแข็งแรง ทนทาน และมีสีสันที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ไม่ต้องรดน้ำบ่อย และสามารถเติบโตได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่แสงน้อย
✅ แสงแดด: ทนต่อทุกสภาพแสง ตั้งแต่แสงแดดจัดไปจนถึงที่ร่ม
💧 น้ำ: รดน้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือเมื่อดินแห้งสนิท
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น
✨ เหตุผล: คายออกซิเจนตอนกลางคืน และช่วยดูดซับสารพิษในอากาศ เหมาะมากสำหรับวางไว้ในห้องนอน
7. ต้นว่านเขียวหมื่นปี
ว่านเขียวหมื่นปีเป็นต้นไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและความเป็นสิริมงคล มีลำต้นตั้งตรง ใบสีเขียวเข้มมีลวดลายเฉพาะตัว นอกจากช่วยดูดซับสารพิษในอากาศแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้าน และมีความเชื่อว่าสามารถนำพาความโชคดีและความเจริญรุ่งเรืองมาให้เจ้าของบ้าน ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลมากนัก
✅ แสงแดด: แสงแดดรำไร หรือแสงในร่มที่ไม่สว่างมาก
💧 น้ำ: รดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ รดเมื่อดินเริ่มแห้ง
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน, ห้องทำงาน
✨ เหตุผล: เป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย ทนทาน และช่วยดูดสารพิษในอากาศได้ดี
8. เฟิร์นบอสตัน
เฟิร์นบอสตันเป็นไม้ประดับที่มีเสน่ห์ตรงใบที่เป็นแฉกละเอียดและโค้งลง ดูนุ่มนวลและช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดซับสารพิษ เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอากาศ แต่ต้องดูแลเรื่องความชื้นให้ดี เพราะต้องการน้ำสม่ำเสมอและชอบสภาพอากาศที่ไม่แห้งจนเกินไป
✅ แสงแดด: แสงแดดรำไร หรือแดดอ่อน ควรหลีกเลี่ยงแดดจัด
💧 น้ำ: รดน้ำ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ชอบดินชื้นแต่ไม่แฉะ
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น
✨ เหตุผล: เป็นพืชที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศได้ดี เหมาะสำหรับวางในห้องน้ำ หรือแขวนในห้องนั่งเล่นเพื่อเพิ่มความสดชื่น
9. ต้นหมากเหลือง
หมากเหลืองเป็นต้นปาล์มที่มีใบเรียวยาวสีเขียวสดใส และสามารถเติบโตได้สูงพอสมควร ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้น ต้นนี้มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษจากอากาศ และยังช่วยเพิ่มความชื้นในห้อง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้หรืออากาศแห้งเกินไปในบ้าน
✅ แสงแดด: ชอบแสงแดดรำไร หรือแดดอ่อน ไม่ควรโดนแดดจัด
💧 น้ำ: รดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ต้องรักษาความชื้นของดิน
🏡 เหมาะกับห้อง: ห้องนั่งเล่น, ระเบียง, มุมบ้านที่ต้องการเพิ่มความเขียวขจี
✨ เหตุผล: เป็นต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น และสามารถดูดซับสารพิษจากอากาศได้ดี
10. ต้นลาเวนเดอร์
นอกจากความสวยงามและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ลาเวนเดอร์ยังเป็นพืชที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด และช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น การปลูกลาเวนเดอร์ในบ้านสามารถทำได้ โดยต้องให้ได้รับแสงแดดเพียงพอ และไม่รดน้ำมากเกินไป เหมาะสำหรับวางไว้บริเวณริมหน้าต่าง หรือมุมที่มีแสงแดดส่องถึง
✅ แสงแดด: ต้องการแสงแดดจัด ควรวางไว้บริเวณที่ได้รับแสงแดดโดยตรง
💧 น้ำ: รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป
🏡 เหมาะกับห้อง: ระเบียง, ริมหน้าต่าง, ห้องนอน (ถ้ามีแสงเพียงพอ)
✨ เหตุผล: กลิ่นหอมช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบาย แต่ต้องได้รับแสงแดดเพียงพอ
แนวทางการจัดวาง ต้นไม้ฟอกอากาศ ให้สวยงาม และเลือกชนิดให้เหมาะสมในเเต่ละห้อง
1. ต้นไม้ฟอกอากาศ ในห้องนั่งเล่น – จุดรวมตัวของบ้านที่ต้องสดชื่น
✅ ต้นไม้ที่แนะนำ: พลูด่าง, เศรษฐีเรือนใน, หมากเหลือง, เฟิร์นบอสตัน
ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่ทุกคนในบ้านใช้เวลาร่วมกันมากที่สุด การเพิ่มต้นไม้ฟอกอากาศในจุดนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และทำให้ห้องดูอบอุ่นขึ้น
✔ วางต้นไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ เช่น หมากเหลือง หรือเฟิร์นบอสตัน ไว้มุมห้อง เพื่อเพิ่มความโดดเด่น
✔ แขวนต้นไม้เล็กๆ เช่น พลูด่าง หรือเศรษฐีเรือนใน บริเวณหน้าต่าง หรือมุมที่แสงแดดเข้าถึง
✔ ใช้ชั้นวางไม้ วางต้นไม้ขนาดเล็กเป็นเลเยอร์ เช่น ลิ้นมังกรขนาดเล็ก หรือกระบองเพชร
2. ต้นไม้ฟอกอากาศ ฝนห้องนอน – สร้างบรรยากาศที่ช่วยให้หลับสบาย
✅ ต้นไม้ที่แนะนำ: ลิ้นมังกร, เดหลี, ลาเวนเดอร์
ต้นไม้ที่เหมาะสำหรับห้องนอนควรเป็นต้นไม้ที่ช่วยคายออกซิเจนตอนกลางคืน และมีคุณสมบัติช่วยให้ผ่อนคลาย
✔ วางต้นไม้กระถางเล็ก ๆ เช่น ลิ้นมังกร หรือเดหลี บนโต๊ะหัวเตียง เพื่อช่วยฟอกอากาศตลอดคืน
✔ เลือกต้นไม้ที่ไม่ต้องการน้ำมาก เพื่อลดความชื้นที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ
✔ หลีกเลี่ยงต้นไม้ที่มีกลิ่นแรงเกินไป เช่น มะลิ หรือดอกไม้ที่มีเกสรเยอะ เพราะอาจรบกวนการนอน
3. ต้นไม้ฟอกอากาศ ในห้องทำงาน – เพิ่มสมาธิและลดความเครียด
✅ ต้นไม้ที่แนะนำ: เฟิร์นบอสตัน, พลูด่าง, ไทรใบสัก
การมีต้นไม้ในห้องทำงานช่วยลดความเครียด และเพิ่มความสดชื่นให้กับบรรยากาศทำงาน
✔ วางต้นไม้ขนาดเล็ก เช่น พลูด่าง หรือเฟิร์นบอสตัน บนโต๊ะทำงาน เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา
✔ วางกระถางต้นไม้สูง เช่น ไทรใบสัก ที่มุมห้องเพื่อสร้างความโดดเด่น
✔ เลือกต้นไม้ที่ดูแลง่าย เพื่อไม่ต้องเสียเวลามากกับการดูแล
4. ต้นไม้ฟอกอากาศ ในห้องครัว – เพิ่มสีเขียว และช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์
✅ ต้นไม้ที่แนะนำ: เศรษฐีเรือนใน, ว่านหางจระเข้, พลูด่าง
ห้องครัวเป็นพื้นที่ที่มีกลิ่นอาหารและความร้อน ต้นไม้ที่ปลูกควรสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมเหล่านี้ได้
✔ วางกระถางต้นไม้เล็ก ๆ เช่น ว่านหางจระเข้ บนขอบหน้าต่าง
✔ แขวนต้นไม้เลื้อย เช่น พลูด่าง หรือเศรษฐีเรือนใน บริเวณชั้นวางของ
✔ เลือกต้นไม้ที่ช่วยดูดซับสารพิษ เพื่อช่วยลดกลิ่นควันและสารเคมีจากการปรุงอาหาร
5. ต้นไม้ฟอกอากาศ ในห้องน้ำ – เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยลดเชื้อรา
✅ ต้นไม้ที่แนะนำ: เฟิร์นบอสตัน, พลูด่าง, เดหลี
ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นสูง จึงควรเลือกต้นไม้ที่ชอบความชื้นและสามารถเติบโตได้ในที่ร่ม
✔ แขวนกระถางต้นไม้ เช่น เฟิร์นบอสตัน หรือพลูด่าง บริเวณหน้าต่างห้องน้ำ
✔ วางต้นไม้กระถางเล็ก ๆ เช่น เดหลี ไว้บนอ่างล้างหน้า หรือมุมห้อง
✔ หลีกเลี่ยงต้นไม้ที่ต้องการแดดจัด เพราะแสงในห้องน้ำมักมีน้อย
6. ต้นไม้ฟอกอากาศ บริเวณหน้าบ้าน หรือระเบียง – เสริมฮวงจุ้ย และความสดชื่น
✅ ต้นไม้ที่แนะนำ: หมากเหลือง, ลิ้นมังกร, ไทรใบสัก
พื้นที่หน้าบ้าน หรือระเบียง ควรเลือกต้นไม้ที่ช่วยเสริมความสดชื่น และสามารถทนแดดได้
✔ วางกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น หมากเหลือง หรือไทรใบสัก ไว้ที่มุมระเบียง
✔ ใช้กระถางแขวน เช่น พลูด่าง หรือเฟิร์นบอสตัน แขวนไว้ริมระเบียงเพื่อเพิ่มความร่มรื่น
✔ เลือกต้นไม้ที่ช่วยดูดซับมลพิษ เพื่อลดมลพิษที่มาจากภายนอก
ต้นไม้ฟอกอากาศ มีประโยชน์โดยรวมอะไรบ้าง?
ต้นไม้ฟอกอากาศมีประโยชน์มากมายที่ส่งผลดีทั้งต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน การนำต้นไม้เหล่านี้มาปลูกในบ้าน ห้องนอน หรือพื้นที่ทำงาน ไม่เพียงแต่ช่วยตกแต่งให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ ลดสารพิษ และสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่ขึ้น
1. ฟอกอากาศ และกำจัดสารพิษในบ้าน
หนึ่งในประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของต้นไม้ฟอกอากาศคือการช่วยกรองอากาศและกำจัดสารพิษในบ้าน เรามักไม่รู้ตัวว่าอากาศภายในบ้านอาจมีสารเคมีที่มาจากเฟอร์นิเจอร์ สีทาบ้าน น้ำยาทำความสะอาด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งอาจปล่อยสารพิษ เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ เบนซีน ไตรคลอโรเอทิลีน แอมโมเนีย และไซลีน ออกมาในอากาศ โดยสารพิษเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น อาการระคายเคืองทางเดินหายใจ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ หรือแม้แต่อาการแพ้ทางผิวหนัง ต้นไม้ฟอกอากาศ เช่น ลิ้นมังกร เดหลี พลูด่าง และเศรษฐีเรือนใน มีความสามารถในการดูดซับสารพิษเหล่านี้ ทำให้ช่วยลดมลพิษและทำให้อากาศในบ้านสะอาดขึ้น
2. เพิ่มออกซิเจน และช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น
ต้นไม้ช่วยเพิ่มออกซิเจนโดยกระบวนการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ต้นไม้บางชนิด เช่น ลิ้นมังกร และต้นเดหลี สามารถคายออกซิเจนในเวลากลางคืน จึงเหมาะสำหรับปลูกในห้องนอน เพราะช่วยให้เราหายใจสะดวกขึ้น ลดอาการนอนไม่หลับ และทำให้นอนหลับลึกขึ้น
3. ลดฝุ่น และเพิ่มความชื้นในอากาศ
ต้นไม้สามารถช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศได้เป็นอย่างดี ใบของต้นไม้จะช่วยดูดซับฝุ่นและอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้ฝุ่นในบ้านลดลง นอกจากนี้ ต้นไม้บางชนิด เช่น เฟิร์นบอสตัน และหมากเหลือง ยังมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชื้นให้กับอากาศ ซึ่งเหมาะสำหรับบ้านที่ใช้เครื่องปรับอากาศบ่อย ๆ หรือมีอากาศแห้ง การมีต้นไม้เหล่านี้จะช่วยลดปัญหาผิวแห้ง คอแห้ง หรืออาการระคายเคืองทางเดินหายใจ
4. ลดความเครียด และช่วยให้ผ่อนคลาย
สีเขียวของต้นไม้ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และลดความเครียดได้เป็นอย่างดี การมีต้นไม้ในบ้านช่วยให้บรรยากาศสงบและเป็นธรรมชาติ ซึ่งส่งผลดีต่อจิตใจ ทำให้รู้สึกสบายและมีความสุขมากขึ้น มีงานวิจัยพบว่าเพียงแค่เราได้มองต้นไม้สีเขียว ก็สามารถช่วยลดระดับความดันโลหิตและลดอัตราการเต้นของหัวใจได้ นอกจากนี้ กลิ่นหอมจากต้นไม้บางชนิด เช่น ลาเวนเดอร์ ยังช่วยบรรเทาความเครียด และทำให้รู้สึกสงบมากขึ้น
5. เพิ่มความสวยงาม และสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้าน
ต้นไม้ฟอกอากาศไม่เพียงแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน ต้นไม้แต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น พลูด่างที่มีใบเป็นลวดลายสวยงาม เศรษฐีเรือนในที่มีใบเรียวยาวและมีสีขาวแซมเขียว เฟิร์นบอสตันที่มีใบฟูหนานุ่ม หรือสาวน้อยประแป้งที่มีลวดลายบนใบคล้ายกับงานศิลปะ เมื่อนำมาตกแต่งบ้านจะช่วยให้บรรยากาศดูเป็นธรรมชาติ สดชื่น และมีชีวิตชีวามากขึ้น
6. ช่วยลดเสียงรบกวน
ต้นไม้มีคุณสมบัติช่วยดูดซับเสียง โดยเฉพาะต้นไม้ที่มีใบหนาแน่นและลำต้นสูง เช่น หมากเหลือง และเฟิร์นบอสตัน สามารถช่วยลดเสียงสะท้อนภายในห้องได้ หากปลูกไว้ใกล้หน้าต่าง หรือระเบียง ก็จะช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงรถยนต์ หรือเสียงคนเดินผ่าน ทำให้บรรยากาศในบ้านเงียบสงบและผ่อนคลายมากขึ้น
7. ช่วยลดอุณหภูมิ และประหยัดพลังงาน
ต้นไม้สามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านได้ เพราะใบของต้นไม้ช่วยให้เกิดร่มเงา และลดการสะสมความร้อนของผนังและพื้นผิวต่าง ๆ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้อากาศภายในบ้านเย็นลง เมื่ออากาศภายในบ้านเย็นขึ้น ก็จะช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งส่งผลให้สามารถประหยัดพลังงานและลดค่าไฟได้อีกด้วย
8. ช่วยลดอาการภูมิแพ้ และป้องกันเชื้อรา
บางคนอาจมีอาการแพ้ฝุ่นหรือสารเคมีในบ้าน การมีต้นไม้ฟอกอากาศช่วยลดสารพิษและฝุ่นในอากาศ ซึ่งช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้สามารถหายใจได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ ต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ เช่น เฟิร์นบอสตัน ยังช่วยลดโอกาสการเกิดไฟฟ้าสถิต และป้องกันผิวแห้ง อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อราในอากาศได้อีกด้วย
9. เป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิ และความรับผิดชอบ
การดูแลต้นไม้เป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิ และลดความเครียดได้ดี การรดน้ำต้นไม้ ตัดแต่งใบ หรือเปลี่ยนกระถาง เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เรามีเวลาผ่อนคลายจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน และยังช่วยฝึกความรับผิดชอบ เพราะต้นไม้ต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอ
10. ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การปลูกต้นไม้ในบ้านเป็นการมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดมลพิษทางอากาศ และทำให้บ้านมีอากาศที่บริสุทธิ์ขึ้น นอกจากนี้ การมีต้นไม้ภายในบ้านยังช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของธรรมชาติมากขึ้น และอาจส่งเสริมให้เราหันมาดูแลสิ่งแวดล้อมในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การลดการใช้พลาสติก หรือการประหยัดพลังงาน