ผลงานการออกแบบและบิ้วอินที่ SPSHOMEDESIGN ภูมิใจนำเสนอครั้งนี้ คือการถ่ายทอดเสน่ห์ของ “Modern Classic” ให้กลายเป็นบ้านที่ทั้งเรียบหรู สง่างาม และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็น Old Money อย่างแท้จริง ทุกห้องถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ใส่ใจทั้งดีเทลและฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นสุดโอ่อ่า ห้องทำงานที่สงบหรู ห้องนอนและ Walk-in Closet ที่หรูหราราวกับโรงแรม รวมถึงห้องน้ำที่ยกระดับการพักผ่อนให้เสมือนอยู่ในสปาส่วนตัว
โดยบ้านหลังนี้จึงไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็น งานศิลป์ที่สะท้อนรสนิยมเจ้าของบ้าน ได้อย่างลึกซึ้ง เป็นการผสมผสานความโมเดิร์นที่ทันสมัยเข้ากับความคลาสสิคที่เหนือกาลเวลาได้อย่างลงตัว และพร้อมจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครที่กำลังมองหาบ้านในฝันที่ “หรูหรามีระดับ” อย่างแท้จริงครับ ✨
รีวิวผลงาน บิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค ของเรา
l ห้องนั่งเล่น (Living Area)
1. Mood and Tone
เจ้าของบ้านต้องการให้ห้องนั่งเล่นเป็น ศูนย์กลางของครอบครัว ที่ทั้งหรูหราและอบอุ่น สามารถต้อนรับแขกได้อย่างภูมิฐาน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนพักผ่อนในโรงแรมหรู ตัวบรรยากาศถูกออกแบบให้ โมเดิร์น คลาสสิค ด้วยโทนสีอ่อนสบายตา ผสานกับแสงธรรมชาติที่ส่องผ่านหน้าต่างทรงโค้งสูง ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง และมีความสง่างามที่ไม่ตกยุค
2. รายละเอียดงานบิ้วอินทั้งหมด
-
ผนังทีวี : กรุด้วยแผ่นหินอ่อนลายธรรมชาติ (Engineered Marble) พร้อมกรอบบัวคลาสสิครอบด้าน เพิ่มไฟซ่อน LED เพื่อขับความสวยของลายหินให้โดดเด่น
-
ตู้บิ้วอินล่าง : ออกแบบให้เป็นตู้บานทึบสไตล์คลาสสิค ใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ของทีวีและเครื่องเสียง ทำให้ห้องดูเรียบร้อย
-
ชั้นวาง Built-in ซ้าย–ขวา (ในภาพที่สอง) : ออกแบบเป็นตู้โชว์และชั้นเก็บหนังสือ เน้นเส้นสายกรอบบัวและไฟส่องในตัว เพิ่มมิติและความหรูหรา
-
ฝ้าเพดาน : ฝ้าหลุมซ่อนแสงรอบห้อง ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นในช่วงกลางคืน และเพิ่มความโอ่อ่าในเวลากลางวัน
-
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว : โซฟาเข้ามุมโทนสีครีมตัดกับหมอนอิงลายเรขาคณิต และโต๊ะกลางทรงกลมท็อปหิน เพิ่มความโมเดิร์นที่กลมกลืนกับรายละเอียดคลาสสิค
-
วัสดุ : เลือกใช้โทนสีขาว ครีม น้ำตาลอ่อน ตัดกับเส้นดำบางส่วน ทำให้ห้องดูสะอาด หรูหรา แต่ยังทันสมัย
3. งบประมาณการบิ้วอิน
สำหรับงานบิ้วอินห้องนั่งเล่นนี้ งบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่
-
ผนังทีวีหินอ่อน + ตู้ล่างบิ้วอิน : 250,000 – 350,000 บาท
-
ชั้นวาง Built-in ซ้าย–ขวา : 120,000 – 180,000 บาท
-
งานฝ้า + แสงไฟซ่อนรอบห้อง : 60,000 – 100,000 บาท
-
รวมงานบิ้วอินทั้งหมด (ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว) : ประมาณ 450,000 – 600,000 บาท
l ห้องทำงาน (Home Office)
1. Mood and Tone
เจ้าของบ้านต้องการห้องทำงานที่ โปร่ง โล่ง และสว่าง โดยเน้นบรรยากาศที่เอื้อต่อการใช้สมาธิและการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงความหรูหราในแบบโมเดิร์น คลาสสิค บรรยากาศโดยรวมเลือกใช้โทนสีขาว–ครีมที่ให้ความรู้สึกสะอาดตา ตัดกับแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างโค้งสูง ทำให้ห้องนี้ดูทันสมัย เรียบหรู และให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทำงานอยู่ในสตูดิโอส่วนตัวที่ทั้งจริงจังและผ่อนคลายไปพร้อมกัน
2. รายละเอียดงานบิ้วอินทั้งหมด
-
โต๊ะทำงาน Built-in ยาวตลอดผนัง : ท็อปใช้หินลายขาวตัดเส้นเทา ดูหรูหราและทนทาน ด้านหน้าบุเป็นงานลูกฟักแนวตั้งเพื่อเพิ่มมิติและเส้นสายให้กับห้อง
-
ตู้ลอยด้านบน : ออกแบบเป็นบานกระจกใสกรอบสีครีม พร้อมไฟซ่อน LED ภายใน ให้ความรู้สึกเรียบร้อยและหรูหรา เหมาะกับการเก็บเอกสารหรือของสะสม
-
ชั้นหนังสือบิ้วอิน : ติดตั้งเต็มผนังด้านข้าง ออกแบบเป็นกรอบบัวคลาสสิคผสมโมเดิร์น ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบและมีความภูมิฐาน
-
แสงไฟ : ใช้ไฟซ่อนทั้งใต้ชั้นและด้านบน เพื่อให้บรรยากาศห้องทำงานไม่แข็งจนเกินไป แต่มีความอบอุ่นกำลังดี
-
องค์ประกอบตกแต่ง : เสริมเก้าอี้ทำงานสมัยใหม่ที่ดูโปรเฟสชันนัล และเก้าอี้พักผ่อนโทนอบอุ่นพร้อมโต๊ะข้างเล็ก เพิ่มมิติของการใช้งานทั้งทำงานและผ่อนคลาย
3. งบประมาณการบิ้วอิน
สำหรับงานบิ้วอินห้องทำงานนี้ งบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่
-
โต๊ะทำงาน Built-in + ท็อปหิน : 120,000 – 160,000 บาท
-
ตู้ลอยด้านบน + ชั้นหนังสือเต็มผนัง : 200,000 – 280,000 บาท
-
งานไฟซ่อน + ระบบไฟตกแต่ง : 40,000 – 70,000 บาท
-
รวมงานบิ้วอินทั้งหมด (ไม่รวมเก้าอี้และของตกแต่งลอยตัว) : ประมาณ 360,000 – 500,000 บาท
l ห้องครัว (Kitchen Area)
1. Mood and Tone
ห้องครัวนี้เจ้าของบ้านรีเควสให้มีความ อบอุ่น สะอาด และหรูหราในแบบโมเดิร์นคลาสสิค โดยคงฟังก์ชันใช้งานจริงเป็นหลัก แต่ยังต้องดูดีเหมือนครัวโชว์ในบ้านตัวอย่าง โทนสีหลักเลือกใช้สีครีมอ่อนผสมกับหินโทนธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสะอาดตาและน่าใช้งานตลอดเวลา บรรยากาศโดยรวมจึงทั้งเรียบง่ายและหรูหราในคราวเดียว
2. รายละเอียดงานบิ้วอินทั้งหมด
-
เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L : ออกแบบให้ใช้งานสะดวก แบ่งโซนล้าง อุ่น/ปรุง และจัดเก็บได้ครบถ้วน ท็อปเคาน์เตอร์กรุหินโทนเทาอ่อน เพิ่มความทนทานและหรูหรา
-
หน้าบานตู้ครัว : ดีไซน์เป็นบานลูกฟักสไตล์คลาสสิค แต่ทำด้วยโทนสีครีมเรียบหรู ให้ความรู้สึกเบา ไม่หนักเกินไป
-
ตู้แขวนด้านบน : ออกแบบเต็มแนวผนังเพื่อเก็บของได้เยอะ มีทั้งบานทึบและบานร่องแนวตั้ง ช่วยเพิ่มมิติให้ครัวดูทันสมัย
-
Backsplash และผนัง : กรุหินสังเคราะห์ลายธรรมชาติ โทนสีเทา-ครีม ช่วยให้ครัวดูสะอาดหรู และง่ายต่อการทำความสะอาด
-
ระบบไฟ : ซ่อนไฟ LED ใต้ตู้แขวน เพิ่มแสงสว่างขณะทำอาหาร และสร้างบรรยากาศที่ดูพรีเมียม
-
เครื่องใช้ไฟฟ้า : ออกแบบช่องบิ้วอินสำหรับเตาอบคู่ และตู้เย็น เพื่อความเรียบร้อยและเข้าชุดกับงานครัว
3. งบประมาณการบิ้วอิน
งบประมาณสำหรับห้องครัวนี้โดยเฉลี่ยอยู่ที่
-
เคาน์เตอร์ + ตู้ล่างบิ้วอิน + ท็อปหิน : 200,000 – 280,000 บาท
-
ตู้แขวนเต็มแนว + งานผนังหิน : 150,000 – 220,000 บาท
-
ระบบไฟซ่อน + งานเดินไฟครัว : 40,000 – 60,000 บาท
-
รวมงานบิ้วอินทั้งหมด (ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า) : ประมาณ 400,000 – 550,000 บาท
l ห้องนอนใหญ่ และห้องเเต่งตัว (Master Bedroom & Walk-in Closet)
1. Mood and Tone
ห้องนอนมาสเตอร์รูมนี้ เจ้าของบ้านต้องการให้เป็น ห้องแห่งการพักผ่อนที่ผสานความหรูหราและความทันสมัย ได้อย่างลงตัว บรรยากาศโดยรวมเน้นโทนสีอบอุ่นอ่อนโยน สว่างสะอาดตา และเพิ่มมิติด้วยแสงไฟที่ซ่อนตามตู้และผนัง ทำให้ห้องนี้ไม่ใช่แค่ห้องนอน แต่เป็นพื้นที่ที่มีทั้งความเป็นส่วนตัว ความโรแมนติก และความภูมิฐาน เหมือนโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว แต่ยังอบอุ่นในแบบบ้านที่เจ้าของอยากใช้เวลานานๆ
2. รายละเอียดงานบิ้วอินทั้งหมด
-
ผนังหัวเตียง : ดีไซน์ลายเซาะร่องแนวเฉียงกรุเต็มผนัง แทรกด้วยไฟวอร์มไลท์แนวตั้ง และกรอบบัวคลาสสิค ทำให้เป็นมุมโฟกัสของห้องอย่างแท้จริง
-
ผนังทีวี : กรุด้วยหินอ่อนลายธรรมชาติ พร้อมตู้ล่างสำหรับเก็บของและชั้นโชว์แนวตั้งซ่อนไฟ ทำให้ห้องดูหรูแต่ยังมีฟังก์ชันครบถ้วน
-
เฟอร์นิเจอร์ Built-in : โซฟานั่งเล่นในห้องเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน และให้ความรู้สึกเป็นส่วนนั่งพักผ่อนในมาสเตอร์รูม
-
Walk-in Closet : ออกแบบทางเดินตู้เสื้อผ้าสองฝั่ง บานตู้กระจกกรอบสีทองหรูหรา ภายในติดไฟส่องเฉพาะจุด ช่วยให้ห้องแต่งตัวดูเด่นและใช้งานสะดวก
-
โต๊ะเครื่องแป้ง/โต๊ะทำงาน : Built-in ติดหน้าต่างเพื่อรับแสงธรรมชาติ และออกแบบเชื่อมต่อกับงานตู้ ทำให้ห้องดูต่อเนื่องและหรูหรามากขึ้น
-
วัสดุโดยรวม : ใช้โทนสีครีม–เบจ ผสมกับลายไม้ธรรมชาติของพื้นลายก้างปลา และหินอ่อน ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยความคลาสสิคแบบร่วมสมัย
3. งบประมาณการบิ้วอิน
สำหรับ Master Bedroom & Walk-in Closet นี้ งบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่
-
ผนังหัวเตียง + งานไฟซ่อน : 200,000 – 280,000 บาท
-
ผนังทีวี + ชั้นโชว์ + ตู้เก็บของ : 180,000 – 250,000 บาท
-
Walk-in Closet (ตู้บิ้วอิน + กระจกกรอบทอง + ไฟในตู้) : 350,000 – 500,000 บาท
-
โต๊ะเครื่องแป้ง/โต๊ะทำงาน Built-in : 80,000 – 120,000 บาท
-
รวมงานบิ้วอินทั้งหมด (ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว) : ประมาณ 800,000 – 1,100,000 บาท
l ห้องนอน 2 (Bedroom 2)
1. Mood and Tone
ห้องนอนนี้เจ้าของบ้านต้องการบรรยากาศที่ อบอุ่น เรียบหรู และสบายตา โดยคุมโทนด้วยสีอ่อนเป็นหลัก เพื่อให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่ง เน้นความสงบที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่ยังแฝงความหรูหราด้วยดีเทลคลาสสิค เช่น กรอบบัวและผนังลูกฟัก บรรยากาศโดยรวมทำให้ห้องนี้เป็นเหมือน โอเอซิสส่วนตัว ที่เข้ามาแล้วรู้สึกผ่อนคลายทันที
2. รายละเอียดงานบิ้วอินทั้งหมด
-
หัวเตียง : ออกแบบผนังหลังเตียงเป็นกรอบบัวโค้งทรงคลาสสิค ผสมกับงานผนังเรียบแนวตั้ง เพิ่มความโดดเด่นให้มุมเตียงเป็นจุดโฟกัสของห้อง
-
โต๊ะหัวเตียง Built-in : ดีไซน์เข้าชุดกับงานผนัง ใช้โทนสีเดียวกันเพื่อความต่อเนื่อง พร้อมโคมไฟติดผนังสมัยใหม่ที่ให้แสงอบอุ่น
-
ตู้เสื้อผ้า : ออกแบบเป็นบานทึบเต็มผนัง ใช้ลูกฟักเรียบหรูและมือจับมินิมอล เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้ครบครันโดยไม่เสียความสวยงาม
-
โต๊ะเครื่องแป้ง : บิ้วอินติดผนังพร้อมกระจกบานใหญ่กรอบบัวโค้ง เชื่อมต่อกับงานตู้เสื้อผ้า ทำให้มุมนี้ใช้งานได้จริงและยังคงความเรียบร้อยหรูหรา
-
ผนังทีวี : กรุด้วยหินสีอ่อนลายธรรมชาติ พร้อมตู้ล่างและชั้นโชว์แนวสูง ดีไซน์ไฟซ่อน LED ช่วยให้ห้องดูหรูหราและทันสมัย
-
วัสดุโดยรวม : ใช้โทนครีมอ่อน ผสมพื้นกระเบื้องลายหินอ่อน ทำให้ห้องนี้ดูสว่างและสะอาดตา
3. งบประมาณการบิ้วอิน
สำหรับงานบิ้วอินห้องนอนนี้ งบประมาณเฉลี่ยอยู่ที่
-
ผนังหัวเตียง + โต๊ะหัวเตียง Built-in : 120,000 – 180,000 บาท
-
ตู้เสื้อผ้าบิ้วอินเต็มผนัง + โต๊ะเครื่องแป้ง : 200,000 – 280,000 บาท
-
ผนังทีวี + ตู้ล่าง + ชั้นโชว์ : 150,000 – 200,000 บาท
-
รวมงานบิ้วอินทั้งหมด (ไม่รวมเตียง/เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว) : ประมาณ 480,000 – 650,000 บาท
l ห้องน้ำชั้น 1 และชั้น 2 (Powder Room & Bathroom Floor 2)
1. Mood and Tone
-
ห้องน้ำชั้น 1 : เจ้าของบ้านต้องการให้ห้องน้ำชั้นล่างมีความ เรียบหรู ดูสะอาดตา และใช้งานง่าย สำหรับทั้งสมาชิกครอบครัวและแขกผู้มาเยือน จึงเลือกใช้โทนหินอ่อนขาวเทาเป็นหลัก เพิ่มไฟซ่อนเพื่อให้ห้องดูมีมิติและหรูหราแม้จะเป็นห้องน้ำรอง
-
ห้องน้ำชั้น 2 : วางคอนเซปต์เป็นห้องน้ำหลักสำหรับการใช้งานประจำวันของเจ้าของบ้าน เน้น ความผ่อนคลายเหมือนสปา โดยใช้โทนหินอ่อนอบอุ่น แทรกไฟวอร์มไลท์ และดีไซน์กระจกทรงโค้งสูง เพื่อสร้างบรรยากาศหรูหราและโรแมนติก
2. รายละเอียดงานบิ้วอินทั้งหมด
-
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า : ออกแบบบิ้วอินท็อปหินอ่อน พร้อมลิ้นชักเก็บของซ่อนใต้เคาน์เตอร์ กรอบบัวและเส้นสายแบบคลาสสิค ผสมกับกระจกทรงโค้งซ่อนไฟ LED ทำให้ดูทั้งหรูและทันสมัย
-
โซนอาบน้ำ : กั้นพื้นที่เปียก–แห้งด้วยประตูกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีทอง/ดำ ใช้ Rain Shower ขนาดใหญ่ และบิลท์อินชั้นวางของในผนังให้ใช้งานสะดวก
-
อ่างอาบน้ำ (เฉพาะชั้น 2) : ออกแบบกรุหินอ่อน พร้อมไฟซ่อนรอบด้าน ขับบรรยากาศให้ห้องน้ำดูอบอุ่นและหรูหรา เหมาะกับการแช่ผ่อนคลาย
-
ตู้เก็บของเหนือโถสุขภัณฑ์ : เพิ่มพื้นที่ใช้งานจริง เก็บของใช้จำเป็นได้อย่างเรียบร้อย และยังดีไซน์ให้เข้ากับธีมโมเดิร์นคลาสสิคของห้อง
-
วัสดุโดยรวม : ใช้หินอ่อนโทนขาว–เทา ผสานกับงานบัวและแสงไฟ ทำให้ห้องน้ำทั้งสองชั้นมีความกลมกลืนหรูหรา แต่ให้ฟีลต่างกัน คือชั้น 1 เรียบหรูสุภาพ / ชั้น 2 หรูหราอบอุ่น
3. งบประมาณการบิ้วอิน
-
ห้องน้ำชั้น 1 :
-
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า + บัวตกแต่ง + กระจกซ่อนไฟ : 120,000 – 160,000 บาท
-
ผนัง/พื้นกรุหินอ่อน + กั้นกระจก + สุขภัณฑ์ : 180,000 – 250,000 บาท
-
รวมงบประมาณ : 300,000 – 400,000 บาท
-
-
ห้องน้ำชั้น 2 :
-
เคาน์เตอร์อ่างคู่ + กระจกทรงโค้งซ่อนไฟ : 180,000 – 250,000 บาท
-
อ่างอาบน้ำบิ้วอิน + ระบบไฟตกแต่ง : 200,000 – 280,000 บาท
-
ผนัง/พื้นกรุหินอ่อน + กั้นกระจก + สุขภัณฑ์ : 220,000 – 300,000 บาท
-
รวมงบประมาณ : 600,000 – 800,000 บาท
-
บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :
พาชมเทคนิคสุดเจ๋ง ในการบิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิคให้สวยหรู!!
ทำไมคนปัจจุบันถึงนิยม บิ้วอินบ้านสไตล์ โมเดิร์น คลาสสิค
1. ความหรูหราเหนือกาลเวลา
สไตล์โมเดิร์น คลาสสิค คือการผสมผสานระหว่างเส้นสายเรียบง่ายของโมเดิร์น และรายละเอียดหรูหราของคลาสสิค เช่น บัวปูน กรอบหัวเตียง หรือผนังลูกฟัก ดีไซน์เหล่านี้ไม่ใช่แฟชั่นที่มาแล้วไป แต่เป็นเสน่ห์ที่ อยู่ได้นาน ไม่ตกยุค เจ้าของบ้านจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนบิ้วอินครั้งเดียว จะทำให้บ้านดูดีและสง่างามไปได้อีกหลายสิบปี
2. สะท้อนภาพลักษณ์และรสนิยมเจ้าของบ้าน
บ้านคือพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของเจ้าของได้ชัดที่สุด และสไตล์โมเดิร์น คลาสสิคก็เป็นสไตล์ที่บ่งบอกถึง ความภูมิฐาน เรียบหรู และรสนิยมแบบ Old Money ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าบ้านจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ การเลือกใช้ดีไซน์นี้จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ให้ดูพรีเมียมและน่าจดจำทันทีที่ก้าวเข้ามา
3. ความสมดุลระหว่างความสวยงามและฟังก์ชัน
คนยุคใหม่ไม่ได้มองหาความสวยอย่างเดียว แต่ต้องการบ้านที่ ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน งานบิ้วอินสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค จึงถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งสองด้าน เช่น ตู้เสื้อผ้าที่เก็บของได้ครบ แต่ยังคงความหรูหราด้วยกรอบบัว หรือห้องครัวที่ใช้งานง่ายแต่ดูสวยเหมือนครัวโชว์ สิ่งเหล่านี้ทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นอย่างแท้จริง
4. เพิ่มมูลค่าและความภูมิฐานให้กับบ้าน
การบิ้วอินในสไตล์นี้ช่วยทำให้บ้านดูแพงขึ้นทันตา ไม่ว่าจะเป็นการใช้วัสดุอย่างหินอ่อน ไม้ หรือไฟซ่อนที่จัดวางอย่างมีชั้นเชิง ทั้งหมดนี้ไม่เพียงสร้างความสวยงาม แต่ยังช่วย เพิ่มมูลค่าทางทรัพย์สิน หากในอนาคตต้องการขายหรือปล่อยเช่า บ้านที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คลาสสิคมักจะได้ราคาดีกว่าแน่นอน
5. บรรยากาศที่ลงตัวทั้งอบอุ่นและหรูหรา
หนึ่งในเหตุผลหลักที่คนปัจจุบันเลือกสไตล์นี้คือ บรรยากาศของบ้าน เพราะมันสามารถให้ฟีลได้ทั้ง “อบอุ่นสำหรับครอบครัว” และ “หรูหราสำหรับการต้อนรับแขก” ไปพร้อมกัน ไม่ว่าต้องการพักผ่อนหรือจัดงานเลี้ยง บ้านก็พร้อมตอบโจทย์ได้ทุกโอกาส และนี่คือความยืดหยุ่นที่ทำให้สไตล์นี้ครองใจเจ้าของบ้านยุคใหม่
5 ข้อดีของการ บิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค
1. ความหรูหราแบบไม่เว่อร์เกินไป
บ้านสไตล์นี้ให้ความรู้สึกหรูหราแบบผู้ดี แต่ไม่หนักหรือจัดจ้านจนเกินไป รายละเอียดอย่างกรอบบัว หินอ่อน หรือโทนสีอ่อนๆ ทำให้บ้านดูสง่างาม แต่ยังคงความเบาสบาย เหมาะกับการอยู่อาศัยในชีวิตจริง
2. ดีไซน์เหนือกาลเวลา
เสน่ห์ของ โมเดิร์น คลาสสิค อยู่ที่ความคลาสสิคที่ไม่ตกยุค ผสมกับความโมเดิร์นที่ร่วมสมัย ทำให้บ้านดูดีได้ตลอด ไม่ว่าจะอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ก็ยังดูมีรสนิยม ไม่จำเป็นต้องรีโนเวทใหม่บ่อยๆ
3. ฟังก์ชันใช้งานครบถ้วน
นอกจากความสวยแล้ว บ้านสไตล์นี้ยังออกแบบฟังก์ชันให้ใช้ได้จริง เช่น ตู้บิ้วอินที่เก็บของได้เยอะ ครัวที่ใช้ทำอาหารได้จริง หรือห้องนอนที่ออกแบบให้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ทุกอย่างถูกคิดมาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตประจำวัน
4. เพิ่มมูลค่าให้บ้าน
บ้านที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค มักมีภาพลักษณ์ที่ดูพรีเมียม ส่งผลให้มูลค่าบ้านสูงขึ้นทันที เหมาะกับทั้งการอยู่อาศัยระยะยาว และการลงทุน เพราะหากขายหรือปล่อยเช่าในอนาคตก็มักจะได้ราคาดีกว่าบ้านทั่วไป
5. บรรยากาศที่ลงตัวทั้งอบอุ่นและภูมิฐาน
บ้านสไตล์นี้สามารถสร้างบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นสำหรับครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความภูมิฐานหรูหราเมื่อต้องต้อนรับแขก เรียกได้ว่า อยู่สบาย ใช้งานจริง และยังสร้างความประทับใจได้ในทุกโอกาส
บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :
บ้านสวยเเบบผู้ดีอังกฤษด้วย 10 วิธี บิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค !!
สรุปบทความ รีวิวผลงาน บิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค สุดหรู
สไตล์ โมเดิร์น คลาสสิค คือคำตอบของคนที่มองหาบ้านที่ทั้งหรูหราและใช้งานได้จริง เพราะมันผสมผสานความงดงามเหนือกาลเวลาของงานคลาสสิคเข้ากับความเรียบง่าย ทันสมัยของโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ผลลัพธ์คือบ้านที่ดูหรูแบบมีรสนิยม ไม่เว่อร์เกินไป และยังสะท้อนภาพลักษณ์ของเจ้าของบ้านให้ดูภูมิฐาน มีระดับเหมือนสไตล์ Old Money ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน หรือแม้แต่ห้องน้ำ ทุกดีไซน์ในบ้านสไตล์นี้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งในแง่ของฟังก์ชันการใช้งานจริง และบรรยากาศที่อบอุ่นหรูหรา บ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิคจึงไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือการลงทุนที่ช่วยเพิ่มทั้งมูลค่าและคุณภาพชีวิต ทำให้เจ้าของบ้านได้พื้นที่ที่ตอบโจทย์ทั้งความสวย ความสะดวก และความภูมิใจในทุกมุมของบ้านครับ 🏡✨