พาชมผลงาน บิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอล ใครกำลังมองหาบ้านฟีลน่าอยู่ห้ามพลาด!!

พาชมผลงาน บิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอล ใครกำลังมองหาบ้านฟีลน่าอยู่ห้ามพลาด!!

พาชมผลงานบิ้วอินบ้านมินิมอล เรียบง่ายแต่หรู น่าอยู่ทุกมุม ใครกำลังวางแผนแต่งบ้านห้ามพลาด! ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาไอเดียบ้านที่ให้ทั้งความเรียบ สงบ แต่แฝงไว้ด้วยความหรูดูดีแบบไม่ต้องพยายาม บ้านหลังนี้คือคำตอบที่ใช่เลยครับ เพราะเราได้รวมผลงานการบิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอลที่ออกแบบโดย SPSHOMEDESIGN อย่างลงตัว ทุกห้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้โทนสีอบอุ่นและวัสดุที่คัดสรรมาอย่างดี เพื่อสร้างบรรยากาศที่อยู่แล้วไม่เบื่อ พร้อมเทคนิคการบิ้วอินที่น่าสนใจในแต่ละโซน จะมีอะไรบ้าง ไปชมพร้อมกันเลยครับ!


1. ห้องนั่งเล่น (Living Area)

l MOOD AND CONCEPT

ห้องนั่งเล่นนี้ถ่ายทอดบรรยากาศของความเรียบหรูสไตล์มินิมอลคลาสสิคได้อย่างลงตัว ด้วยโทนสีขาวและน้ำตาลอ่อนที่ให้ความรู้สึกสว่าง โปร่ง และอบอุ่นในเวลาเดียวกัน การเลือกใช้แผงผนังตีบัวขาวตลอดทั้งห้อง เสริมด้วยเส้นสายคมชัดแบบคลาสสิค ทำให้แม้ดีไซน์จะดูเรียบ แต่ยังแฝงความประณีตและมีชั้นเชิง ผสมกับเฟอร์นิเจอร์ทรงโค้ง เส้นสายโฟลวอ่อนโยน จึงช่วยปรับสมดุลให้ห้องนี้ดูละมุนขึ้น และน่าใช้งานในทุกช่วงเวลา

l เทคนิคบิ้วอินที่น่าสนใจ

  • ผนังทีวีโค้งมนพร้อมซ่อนไฟด้านหลัง:
    ผนังทีวีออกแบบด้วยงานบิ้วอินโทนขาวเรียบ แต่เพิ่มลูกเล่นด้วยเส้นโค้งด้านข้างให้ดูนุ่มนวลมากขึ้น พร้อมซ่อนไฟ LED ด้านหลังแผง เพื่อสร้างแสงเงาให้ผนังมีมิติโดยไม่ต้องใช้ของตกแต่งเยอะ

  • ฐานตู้ทีวีดีไซน์คลาสสิคผสมหิน:
    ฐานบิ้วอินใต้ทีวีเลือกใช้ดีไซน์บานลูกฟักในทรงคลาสสิค แต่ปรับให้ร่วมสมัยด้วยหินท็อปสีขาวลายอ่อน ดูสะอาดตาและยังใช้งานได้จริง

  • ผนังรอบห้องกรุบัวคลาสสิคเต็มพื้นที่:
    ใช้เทคนิคกรุผนังแบบ Panel Wall พร้อมคิ้วบัวรอบห้อง ช่วยให้ผนังดูมีเลเยอร์และหรูหราแบบไม่ต้องใช้วัสดุฉูดฉาด และยังคุมโทนให้กลมกลืนกับผนังทีวี

  • ซุ้มโชว์ของสะสมฝังผนัง:
    มุมข้างบันไดบิ้วอินเป็นช่องโชว์ของสะสม พร้อมติดไฟในแต่ละชั้น ช่วยใช้พื้นที่แนวตั้งให้คุ้มค่า และยังเติมคาแรกเตอร์ให้ห้องดูน่าสนใจแบบมีชีวิต

  • เลือกเฟอร์นิเจอร์โทนเข้มมาตัดโทนห้อง:
    โซฟาสีเทาเข้มและเก้าอี้น้ำตาลเข้มทำหน้าที่เบรกความสว่างของห้องไม่ให้ดูเรียบจนเกินไป และยังคงสไตล์มินิมอลไว้ได้ครบถ้วน


2. ห้องทานอาหาร (Dinning Room)

l MOOD AND CONCEPT

ห้องทานอาหารนี้ถูกออกแบบให้คงความเรียบหรูในแบบมินิมอลคลาสสิค โดยเน้นใช้โทนสีขาวเป็นหลัก เสริมด้วยพื้นไม้โทนอ่อนเพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง บรรยากาศโดยรวมดูโปร่ง สะอาดตา และไม่อึดอัด ด้วยการจัดแสงไฟแบบซ่อนแหล่งกำเนิด และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงโค้ง เช่น โต๊ะกลมและเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่ที่ให้สัมผัสนุ่มนวล ทั้งหมดนี้ผสมผสานความเป็นทางการกับความผ่อนคลายได้อย่างสมดุล เหมาะสำหรับมื้ออาหารทั้งในชีวิตประจำวันและการต้อนรับแขกในบรรยากาศอบอุ่น


l เทคนิคบิ้วอินที่น่าสนใจ

  • กรุผนัง Panel Wall พร้อมคิ้วบัวรอบห้อง:
    ผนังโดยรอบห้องยังคงใช้เทคนิคเดียวกับห้องนั่งเล่น คือบิ้วอินคิ้วบัวให้เต็มพื้นที่ สร้างกรอบและเลเยอร์ให้ผนังดูมีดีเทลโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มมาก

  • เลือกใช้ประตูและหน้าต่างกระจกบานใหญ่:
    ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ และเปิดมุมมองสู่ภายนอก ทำให้ห้องทานอาหารรู้สึกโล่ง เบา และนั่งสบายในทุกช่วงเวลา

  • ซุ้มประตูโค้งสร้างความละมุน:
    ทางเข้าครัวด้านในถูกตกแต่งด้วยซุ้มประตูทรงโค้งแบบคลาสสิค เป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่ช่วยเปลี่ยนจังหวะของพื้นที่ให้ดูนุ่มนวลขึ้น เพิ่มมิติให้กับโถงยาวแบบไม่ทื่อจนเกินไป

  • เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ทรงโค้งรับกับเส้นโครงสร้างห้อง:
    โต๊ะกลมและเก้าอี้ทรงโค้งรับกับซุ้มประตูและดีไซน์โดยรวม เป็นการใช้ “เส้นโค้ง” เพื่อปรับสมดุลความแข็งของเส้นบัว ทำให้ห้องดูเฟรนด์ลี่มากขึ้น

  • ใช้โทนเข้มของเก้าอี้มาตัดขอบสีอ่อน:
    การเลือกใช้เก้าอี้สีเข้มช่วยทำให้มุมทานอาหารดูมีน้ำหนัก และช่วยตัดโทนขาวรอบห้องให้ดูมีคาแรกเตอร์ยิ่งขึ้น


3. ห้องนอน (Master Bedroom)

l MOOD AND CONCEPT

ห้องนอนนี้ถ่ายทอดอารมณ์แบบ “Minimal Luxury” ได้อย่างลุ่มลึก ด้วยโทนสีขาว ครีม และน้ำตาลอ่อนที่สื่อถึงความอบอุ่น สงบ และมีระดับ ผนังหัวเตียงที่กรุด้วยบัวและแผงไม้ช่วยสร้างจังหวะสายตา ทำให้ห้องดูมีมิติแต่ยังคงความละมุน ตำแหน่งของเตียงที่จัดวางให้รับแสงธรรมชาติตรงๆ ยิ่งเติมบรรยากาศให้ดูสบาย ผ่อนคลาย และเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง เป็นห้องที่มีทั้งฟังก์ชัน ความสวยงาม และความรู้สึกที่ดีแบบครบถ้วน


l เทคนิคบิ้วอินที่น่าสนใจ

  • กรุผนังหัวเตียงด้วยบัวผนัง + ไม้ลายเส้นตรง:
    เทคนิคนี้ช่วยให้หัวเตียงไม่เรียบโล่งเกินไป และเพิ่มความหรูหราโดยไม่ต้องใช้วัสดุสิ้นเปลือง แถมยังสร้างกรอบสายตาที่ดูเรียบร้อย

  • เล่น Texture แบบ Matte & Soft:
    จากผนังด้านหลังที่ใช้วัสดุเนื้อด้าน ไปจนถึงผ้าปูและเฟอร์นิเจอร์ที่มีสัมผัสนุ่ม ทั้งหมดนี้ช่วยให้ห้องนอนดู “สงบแบบสัมผัสได้” ไม่แข็ง ไม่ดิบ

  • บิ้วอินตู้เสื้อผ้าหน้าบานเรียบ:
    ตู้เสื้อผ้าบิ้วอินถูกออกแบบให้ดูกลืนไปกับผนัง โดยเลือกใช้หน้าบานแบบเรียบไม่มีมือจับ ลดความรู้สึกรกของเส้นสาย และทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น

  • จัดแสงแบบ Soft Ambient Lighting:
    ไฟ Downlight ฝังฝ้าและแสงที่ส่องเฉียงช่วยขับให้ผนังมีมิติ และสร้างบรรยากาศนุ่มๆ ที่เหมาะกับการนอนพักผ่อน

  • พื้นไม้ลายอ่อนเพื่อความผ่อนคลาย:
    การเลือกใช้พื้นไม้ SPC หรือ Engineering wood โทนสว่าง ทำให้ห้องนอนดูอบอุ่น เรียบหรู และอยู่ได้นานโดยไม่รู้สึกเบื่อ


4. ห้องครัว (Kitchen)

l MOOD AND CONCEPT

ห้องครัวนี้ออกแบบภายใต้แนวคิด “คลาสสิกเข้มขรึมในบรรยากาศเรียบหรู” โดยเลือกใช้โทนสีดำด้านตัดกับสีขาวอย่างมีชั้นเชิง เพื่อเน้นเสน่ห์ของความขรึมและความสะอาดในพื้นที่เดียวกัน ผนังและท็อปเคาน์เตอร์ลายหินธรรมชาติเพิ่มมิติความหรูหรา และช่วยเบรกความเข้มของสีดำไม่ให้ดูทึบจนเกินไป เมื่อรวมกับแสงไฟ Warm White แบบซ่อนใต้ตู้ ให้บรรยากาศอบอุ่น นุ่มนวลแต่ยังดูหรู และสร้างความรู้สึกเป็นมืออาชีพอย่างมีรสนิยมในการประกอบอาหารทุกมื้อ


l เทคนิคบิ้วอินที่น่าสนใจ

  • การใช้ตู้บิ้วอินสูงจรดฝ้า: ตู้ครัวทุกบานออกแบบให้เต็มพื้นที่แนวตั้ง เพื่อใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า และทำให้ห้องดูสูงโปร่ง ไม่สะดุดสายตา

  • การผสมสีสองโทน (ทูโทน): ใช้สีดำด้านกับสีขาวเพื่อแยกสเปซการใช้งาน และสร้างความน่าสนใจให้กับดีไซน์โดยรวม โดยไม่ต้องใช้ของตกแต่งเยอะ

  • หน้าบานสไตล์ Classic Panel: เลือกใช้หน้าบานบานกรอบสไตล์คลาสสิกที่ดูเรียบง่าย แต่ยังคงกลิ่นอายของความหรู ให้ห้องครัวดู timeless

  • การวางเครื่องซักผ้าในห้องครัว: เป็นเทคนิคสำหรับบ้านที่ต้องการจัดสรรพื้นที่ให้คุ้ม ตู้บิ้วอินถูกออกแบบให้โอบเครื่องซักผ้าไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมพื้นที่วางของและเก็บผ้าสะดวก

  • การใช้กระจกและไฟซ่อน: เพิ่มความลึกและความสว่างให้กับพื้นที่ผ่านการติดไฟ LED ซ่อนใต้ตู้ลอย และบานกระจกด้านบนเพิ่มความโปร่งไม่อึดอัด

  • มุมบิ้วอินโชว์ของตกแต่ง: ด้านข้างมีการออกแบบมุมโชว์ของที่บิ้วอินด้วยแผ่นลายหินพร้อมไฟในตัว เพื่อเพิ่มความหรูให้กับห้องครัวแบบไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เพิ่ม

บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :

บิ้วอินบ้านมินิมอล แบบไหน อยู่แล้วไม่เบื่อ? รวม 10 เทคนิคที่ลงตัวสุดๆ


บิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอล ใช้งบเยอะมั้ย ?

การบิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอล “ใช้งบเยอะไหม?” คำตอบคือ แล้วแต่การเลือกวัสดุและดีเทลที่ใส่เข้าไปครับ แต่ในภาพรวม บิ้วอินมินิมอล สามารถคุมงบได้ง่ายกว่าสไตล์อื่นๆ เพราะเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก ไม่มีลวดลายหรืองานแกะสลักซับซ้อน ทำให้ไม่ต้องเสียค่าช่างฝีมือพิเศษมากนัก

แต่สิ่งที่อาจทำให้ราคาพุ่งขึ้นได้คือ…

สิ่งที่ทำให้ “งบบาน”

  • เลือกวัสดุพรีเมียมเกินความจำเป็น เช่น ไม้จริงล้วน, หินนำเข้า, ระบบไฟซ่อนดีไซน์พิเศษ

  • ต้องการความเป๊ะหรืองานเฉพาะตัว เช่น ตู้ต้องจมพอดี, ผนังต้องกรุโค้ง, รางไฟซ่อนต้องไร้รอยต่อ

  • พื้นที่บิ้วอินเยอะ หรือบิ้วอินครบทุกห้องทุกผนัง แน่นอนว่ายิ่งทำเยอะ งบก็ยิ่งมาก

แต่ถ้าอยาก “คุมงบ”

  • ใช้ วัสดุปิดผิวที่ดูดีแต่ราคาไม่แรง เช่น เมลามีน, ลามิเนต หรือไม้ HMR

  • ออกแบบให้ ฟังก์ชันเยอะ แต่ทรงเรียบ ไม่ต้องเว้าโค้งหรือซ่อนไฟซับซ้อน

  • วางแผนกับช่างหรือดีไซเนอร์ให้ดีตั้งแต่ต้น ไม่เปลี่ยนบ่อยระหว่างทำ

สรุปง่ายๆ:

บิ้วอินมินิมอล “ไม่ได้ต้องใช้เงินเยอะเสมอไป” ถ้ารู้เทคนิคในการออกแบบและเลือกวัสดุให้คุ้มค่า สวยแบบพอดีๆ ก็ทำได้ในงบที่ไม่ต้องถึงขั้นลำบากกระเป๋าครับ


5 เหตุผล ทำไมควรเลือก SPS HOME DESIGN มา บิ้วอินบ้านมินิมอล ของคุณ

1. เราเลือกใช้ไม้ HMR เกรดท็อปสุดในทุกงานบิ้วอิน

เพราะเราเชื่อว่าบ้านหรูต้องอยู่ได้นาน ไม่ใช่แค่สวยช่วงแรกๆ ไม้ HMR (High Moisture Resistance) ที่เราใช้มีคุณสมบัติทนความชื้นสูงกว่าพาร์ติเคิลบอร์ดทั่วไป ไม่บวม ไม่บิดงอง่าย และเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยที่มีความชื้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในห้องครัว ห้องน้ำ หรือบริเวณที่ติดแอร์ เปิด–ปิดบ่อย ไม้ชนิดนี้ยังมีพื้นผิวเรียบแน่น ทำให้ติดลามิเนตได้แนบสนิทและสวยงามแบบงานพรีเมียม

2. เราใช้ลามิเนตลายสมจริงมากที่สุดในไทย

พื้นผิวและลวดลายคือสิ่งที่สร้างความรู้สึก “หรู” ในบ้านได้อย่างแท้จริง เราคัดสรร ลามิเนตลายไม้ ลายหิน ลายหนัง ที่ให้สัมผัสเสมือนวัสดุจริงมากที่สุด ทั้งในเรื่องของผิวสัมผัส (Texture) และการจับแสงเงา ไม่ใช่แค่ภาพพิมพ์เหมือนทั่วไป ทำให้เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ตู้หรือผนังจะดูพรีเมียมเหมือนบ้านยุโรปหรือโรงแรมระดับ 5 ดาว

3. เราออกแบบเฉพาะให้เข้ากับสไตล์บ้านของแต่ละคน

เราไม่ใช้แบบสำเร็จรูปหรือดีไซน์ที่ซ้ำกับใคร ทุกงานบิ้วอินจะผ่านการวิเคราะห์สไตล์บ้าน พื้นที่ใช้สอย และไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านโดยละเอียด ไม่ว่าคุณจะชอบ บ้านสไตล์โมเดิร์นหรู (Modern Luxury), คลาสสิคยุโรป หรือมินิมอลอบอุ่น เราสามารถออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินกลมกลืนกับทุกมุมของบ้านได้อย่างลงตัว

4. ทีมช่างมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 10 ปี

เบื้องหลังงานสวยคือฝีมือของทีมช่างของเรา ที่ผ่านงานบ้านหรูมาหลากหลายโครงการ ทีมงานของเราเข้าใจดีว่าการติดตั้งบิ้วอินต้องอาศัยความละเอียด ความเนี้ยบ และการวัดพื้นที่แบบมืออาชีพ ทุกจุดที่ติดตั้งจะต้องเป๊ะ ไม่มีเบี้ยว ไม่มีช่องว่าง ไม่ทิ้งรอยต่อที่ทำให้บ้านดูราคาถูก

5. งานเร็ว ตรงเวลา พร้อมบริการหลังการขาย

เราให้ความสำคัญกับระยะเวลาติดตั้งและการส่งมอบงานตามที่ตกลงไว้ เพราะเราเข้าใจว่าการทำบ้านคือเรื่องใหญ่สำหรับเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ เรายังมี บริการตรวจสอบและดูแลหลังการติดตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่างานของเราจะอยู่กับคุณอย่างสมบูรณ์แบบ

บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :

รีวิวผลงานบิ้วอินบ้าน สไตล์โมเดิร์น มินิมอล สวยหรูในงบหลักแสน !!


สรุปส่งท้าย พาชมผลงาน บิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอล ใครกำลังมองหาบ้านที่ให้ฟีลน่าอยู่ห้ามพลาด!! 

บ้านหลังนี้ถ่ายทอดความงามของสไตล์มินิมอลออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ผ่านการบิ้วอินที่ทั้งเรียบง่ายและพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่ใช้โทนสีอบอุ่นและเส้นสายที่นุ่มนวลเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย ห้องครัวที่ออกแบบอย่างลงตัวด้วยฟังก์ชันที่ครบครันผสานกับความงามแบบร่วมสมัย ไปจนถึงมุมซักล้างที่ถูกดีไซน์ให้กลายเป็นพื้นที่ใช้งานที่ทั้งเรียบร้อยและสวยงาม ทุกโซนในบ้านถูกเชื่อมโยงกันด้วยภาษาการออกแบบเดียวกันคือ “ความเรียบ” ที่ไม่ธรรมดา และ “ความน้อย” ที่ไม่ได้ลดทอนประโยชน์ใช้สอย แต่กลับเติมเต็มความรู้สึกสบายใจให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกๆ วัน

สิ่งที่น่าสนใจอีกจุดคือเทคนิคการบิ้วอินที่สอดแทรกอยู่ในแต่ละห้อง ทั้งการซ่อนระบบภายในให้ดูสะอาดตา การเล่นกับแสงธรรมชาติอย่างชาญฉลาด และการเลือกใช้วัสดุที่มี texture ชวนมอง ทำให้บ้านไม่ดูเรียบจนเกินไป ทุกองค์ประกอบในบ้านหลังนี้จึงไม่ได้มีแค่ความสวย แต่ยังสะท้อนถึงความใส่ใจในไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาแนวทางการแต่งบ้านให้น่าอยู่แบบไม่ตกเทรนด์ บ้านหลังนี้ถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจมาก และถ้าไม่อยากพลาดเทคนิคดีๆ แบบนี้อีก อย่าลืมกดติดตามไว้เลยนะครับ!