คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางบ้านอยู่แล้วรู้สึกสบาย มีพลังบวก ไหลลื่นไปทุกอย่าง ในขณะที่บางบ้านอยู่แล้วอึดอัดหรือเหมือนโชคร้ายติดขัด? คำตอบอาจไม่ใช่แค่เรื่องการตกแต่ง แต่ ฮวงจุ้ยบ้าน ก็มีส่วนสำคัญ! 🌿✨ ซึ่งในบทความนี้ SPSHOMEDESIGN จะพาคุณไขข้อสงสัยว่าทำไมบ้านของเราต้องมีฮวงจุ้ยที่ดี พร้อมแชร์ เทคนิคง่ายๆ ที่เหมาะกับบ้านยุคใหม่ ให้ทุกมุมบ้านไหลลื่นและเต็มไปด้วยพลังบวก อ่านจบคุณก็สามารถปรับบ้านให้ดีขึ้นได้ทันที
ฮวงจุ้ย คืออะไร ทำไมบ้านทุกหลังควรให้ความสำคัญ?
ฮวงจุ้ย (Feng Shui) คือศาสตร์โบราณจากจีนที่ว่าด้วยการจัดวางสิ่งต่างๆ ในบ้านหรือพื้นที่ให้เกิดความสมดุล พลังงานไหลลื่น และส่งผลต่อความเป็นอยู่ สุขภาพ และความโชคดีของคนในบ้าน ไม่ใช่แค่เรื่องความเชื่อ แต่เป็นการจัดบ้านอย่างมีหลักการ เพื่อให้ทุกมุมบ้านทำงานร่วมกันอย่างลงตัว
บ้านที่มีฮวงจุ้ยดีจะช่วยเสริมความสบายใจ ทำให้คนในบ้านรู้สึกผ่อนคลายและมีพลังบวก หมุนเวียนพลังงานให้ชีวิตไหลลื่น ทั้งเรื่องงาน การเงิน และความสัมพันธ์ การให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยจึงไม่ใช่แค่เรื่องโชคลาภ แต่เป็นการสร้างบ้านที่ “อยู่แล้วดีต่อใจ” สำหรับทุกคนในครอบครัว
l เทคนิคการจัด ฮวงจุ้ย บริเวณ หน้าบ้าน/นอกบ้าน
1. ทางเข้าบ้านต้องโล่งและเป็นระเบียบ
ทางเข้าบ้านเป็น จุดรับพลังงานหลัก ของบ้าน หากมีของรก ขยะ หรือรถจอดขวาง จะทำให้พลังงานดีไม่ไหลเข้าสู่บ้าน จัดให้โล่งสะอาดและเดินสะดวก จะช่วยให้โชคลาภและพลังงานบวกไหลเข้าบ้านได้อย่างเต็มที่
2. ปลูกต้นไม้หรือจัดสวนเล็ก ๆ
วางต้นไม้หรือดอกไม้สองข้างทางเดินเข้าบ้าน เพื่อสร้าง พลังงานสดชื่นและชีวิตชีวา เลือกต้นไม้ที่ใบสีเขียวสดและดอกไม้สีสว่าง ช่วยเสริมโชคลาภ ความรัก และความสุขของคนในบ้าน
3. วางลานหรือพื้นทางเข้าด้วยวัสดุเรียบและสวยงาม
พื้นลานหรือทางเดินหน้าบ้านควรเรียบเสมอ ใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทาน สีโทนสว่างหรือโทนอุ่น เช่น ขาว ครีม หรือโทนไม้ธรรมชาติ เพื่อ สร้างความมั่นคงและต้อนรับพลังงานบวก
4. แสงสว่างรอบ ๆ ลานและทางเข้าบ้าน
ติดโคมไฟหรือแสงสว่างรอบ ๆ ลานและทางเข้าบ้าน โดยเฉพาะกลางคืน แสงช่วยให้ พลังงานหมุนเวียนดีและรู้สึกปลอดภัย ทำให้บ้านดูน่าอยู่และเปิดรับโชคลาภ
5. หลีกเลี่ยงมุมแหลมหรือสิ่งกีดขวาง
มุมแหลมจากรั้ว กำแพง หรือเสาที่ชี้เข้าบ้าน จะสร้าง พลังงานคม (Sha Qi) ทำให้พลังงานดีสะดุด จัดทางเดินให้โล่ง ปรับมุมแหลมหรือวางของตกแต่งกลบมุมแหลม เพื่อให้พลังงานไหลเวียนราบรื่น
l เทคนิคการจัด ฮวงจุ้ย ห้องนั่งเล่น
1. วางโซฟาและเก้าอี้ให้มั่นคงและหันเข้าหาประตู
การวางโซฟาหรือเก้าอี้ชิดผนังด้านใดด้านหนึ่งและไม่หันหลังตรงกับประตู ช่วยให้ผู้นั่งรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย เพราะตามหลักฮวงจุ้ย ประตูคือจุดพลังงานไหลเข้าห้อง หากนั่งหันหลังตรงกับประตู พลังงานจะสะดุด ทำให้สมาธิและความรู้สึกผ่อนคลายลดลง
2. ให้แสงธรรมชาติหรือแสงไฟเพียงพอ
ห้องนั่งเล่นควรได้รับแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเหมาะสม หรือถ้าเป็นค่ำคืน ใช้ไฟสว่างนวล ๆ เพราะแสงช่วยให้พลังงานไหลเวียนสะดวก ห้องที่มืดหรือทึบทำให้พลังงานคงค้างและรู้สึกอึดอัด การมีแสงเพียงพอจึงช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า
3. จัดเฟอร์นิเจอร์ให้สมดุลและไม่เกะกะ
ควรวางโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของให้สมดุลทั้งสองฝั่งของห้อง และเว้นพื้นที่ว่างให้เดินสะดวก เพราะการเว้นพื้นที่โล่งทำให้พลังงานไหลเวียนได้ดี ห้องที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ขวางทางทำให้พลังงานติดขัด และอาจสร้างความรู้สึกอึดอัดหรือเครียด
4. เลือกสีและของตกแต่งเพื่อเสริมพลังงานบวก
ใช้สีสว่างหรือโทนอบอุ่น เช่น ขาว ครีม น้ำตาลอ่อน หรือโทนไม้ธรรมชาติ เพื่อสร้างบรรยากาศสบายตา วางต้นไม้เล็ก ๆ หรือของตกแต่งที่ให้ความรู้สึกสุขสงบและเป็นมิตร จะช่วยกระตุ้นพลังงานบวก ทำให้ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่คนในบ้านอยากอยู่ร่วมกัน
5. หลีกเลี่ยงมุมแหลมและสิ่งกีดขวางตรงทางเดิน
มุมแหลมจากโต๊ะ ชั้น หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ชี้เข้าหาผู้นั่งสามารถสร้างพลังงานคม (Sha Qi) ทำให้รู้สึกไม่สบายหรือเครียด ควรปรับมุมโต๊ะให้โค้งมน หรือใช้ของตกแต่งกลบมุมแหลม และจัดทางเดินให้โล่ง เพื่อให้พลังงานไหลเวียนได้อย่างราบรื่น
l เทคนิคการจัด ฮวงจุ้ย ห้องครัว
1. วางเตาไฟและซิงค์น้ำให้สมดุล
เตาไฟและซิงค์น้ำถือเป็น ธาตุไฟและน้ำ ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยเป็นคู่ตรงข้าม การวางเตาไฟและซิงค์น้ำให้ไม่ตรงกันโดยตรงจะช่วยป้องกันความขัดแย้งของพลังงาน ทำให้ครัวเป็นพื้นที่ที่สร้างพลังงานบวกและส่งเสริมความมั่งคั่งของครอบครัว
2. รักษาความสะอาดและระบายอากาศดี
ห้องครัวเป็นแหล่งอาหารและพลังงานชีวิต หากมีคราบสกปรกหรือกลิ่นอับ พลังงานดีจะติดขัด การทำความสะอาดเป็นประจำ และมีช่องระบายอากาศหรือเครื่องดูดควัน จะช่วยให้พลังงานไหลเวียนดี อาหารและอารมณ์ของคนในบ้านสดชื่น
3. วางโต๊ะหรือมุมเตรียมอาหารให้เว้นระยะ
ควรเว้นทางเดินให้โล่ง เพื่อให้พลังงานหมุนเวียนสะดวก ห้องครัวที่แคบหรือมีของกีดขวางทางเดินจะทำให้พลังงานติดขัด ส่งผลต่อความรู้สึกเครียดหรืออึดอัดขณะทำอาหาร
4. ใช้สีและของตกแต่งเพื่อเสริมพลังงานบวก
เลือก สีสว่างหรือโทนอุ่น เช่น ขาว ครีม เหลืองอ่อน หรือโทนไม้ธรรมชาติสำหรับผนังและเฟอร์นิเจอร์ วางต้นไม้เล็ก ๆ หรือของตกแต่งสดใส เช่น ผลไม้ประดิษฐ์ จะช่วยกระตุ้นความรู้สึกสดชื่น เพิ่มพลังบวก และทำให้ห้องครัวน่าใช้งาน
5. หลีกเลี่ยงสิ่งแหลมและวางอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบ
มุมแหลมหรือขอบเคาน์เตอร์ที่ชี้เข้าทางเดินหรือเตาไฟสามารถสร้างพลังงานคม (Sha Qi) ทำให้รู้สึกไม่สบายหรือเครียด จัดวางอุปกรณ์ทำอาหารให้เป็นระเบียบ และปรับมุมโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ให้โค้งมน เพื่อให้พลังงานไหลเวียนได้อย่างราบรื่น
l เทคนิคการจัด ฮวงจุ้ย ห้องนอน
1. วางเตียงให้มั่นคงและหันหัวเตียงชิดผนัง
การวางหัวเตียงชิดผนังและไม่หันตรงกับประตูช่วยให้ ความรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง ผู้นอนจะรู้สึกผ่อนคลาย หลับสบาย และพลังงานไหลเวียนดี
2. รักษาความสะอาดและเป็นระเบียบ
ห้องนอนที่รกหรือมีของใช้เกะกะทำให้พลังงานติดขัด การจัดเก็บเสื้อผ้าและของใช้ให้เรียบร้อยจะช่วยให้ บรรยากาศสงบและผ่อนคลาย ส่งผลต่อการนอนหลับและสุขภาพจิต
3. เลือกสีและของตกแต่งที่สร้างบรรยากาศสงบ
ใช้สีโทนอ่อนหรือโทนอุ่น เช่น ขาว ครีม ฟ้าอ่อน หรือโทนไม้ธรรมชาติ วางต้นไม้เล็กหรือของตกแต่งที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเพื่อ เสริมพลังงานบวกและความรักในครอบครัว
4. หลีกเลี่ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าและมุมแหลมใกล้เตียง
หลีกเลี่ยงทีวี คอมพิวเตอร์ หรือขอบเฟอร์นิเจอร์แหลมใกล้เตียง เพราะพลังงานไฟฟ้าและมุมคมสามารถสร้าง ความเครียดและพลังงานลบ ควรวางอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ห่างและปรับมุมให้โค้งมน
5. แสงสว่างและอากาศถ่ายเทดี
ห้องนอนควรมี แสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทเพียงพอ เพื่อให้พลังงานไหลเวียนดี ช่วยให้ผู้นอนตื่นมาสดชื่น มีพลัง และรู้สึกพร้อมรับวันใหม่
บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :
SPSHOMEDESIGN หนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากบิ้วอินบ้านที่ดีที่สุด
l เทคนิคการจัด ฮวงจุ้ย ห้องน้ำ
1. ปิดประตูห้องน้ำทุกครั้ง
ประตูห้องน้ำเป็นจุดที่พลังงานไหลออกจากบ้าน การปิดประตูทุกครั้งหลังใช้จะช่วย รักษาพลังงานดีไว้ในบ้าน ลดการรั่วไหลของโชคลาภและพลังบวก
2. รักษาความสะอาดและระบายอากาศ
ความสะอาดและอากาศถ่ายเทดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ ความชื้นและกลิ่นเหม็น ทำให้พลังงานติดขัด การทำความสะอาดเป็นประจำและติดพัดลม/เครื่องดูดควันจะช่วยให้ห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่ไม่สร้างพลังงานลบ
3. วางอ่างล้างหน้าและโถส้วมให้เหมาะสม
ควรวางอ่างล้างหน้าและโถส้วมให้ไม่ตรงกับประตูหลักหรือห้องอื่น ๆ การจัดตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยให้ พลังงานไหลเวียนราบรื่น ลดความรู้สึกอึดอัดและป้องกันพลังงานดีรั่วออกนอกบ้าน
4. ใช้สีสว่างและของตกแต่งเสริมพลังงานบวก
เลือกสีโทนอ่อน เช่น ขาว ครีม ฟ้าอ่อน หรือโทนไม้ธรรมชาติ วางต้นไม้เล็กหรือของตกแต่งเพื่อสร้าง ความรู้สึกสดชื่นและพลังงานดี ช่วยให้ห้องน้ำเป็นพื้นที่ผ่อนคลาย
5. ป้องกันน้ำรั่วและท่อน้ำชำรุด
น้ำรั่วถือเป็นสัญลักษณ์ของ พลังงานดีไหลออก การซ่อมแซมท่อน้ำและก๊อกทุกครั้งที่มีปัญหาช่วยรักษาโชคลาภ สุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัว
l เทคนิคการจัด ฮวงจุ้ย ห้องทำงาน
1. วางโต๊ะทำงานให้มั่นคงและมองเห็นประตู
การวางโต๊ะชิดผนังและหันหน้าเข้าประตูช่วยให้คุณรู้สึก ควบคุมสถานการณ์ได้และมั่นใจ ตามหลักฮวงจุ้ย การมองเห็นประตูช่วยให้คุณรับรู้สิ่งที่จะเข้ามาในห้อง ลดความเครียดและเพิ่มสมาธิ
2. รักษาความสะอาดและระเบียบบนโต๊ะ
โต๊ะทำงานที่รกเต็มไปด้วยเอกสารหรืออุปกรณ์ทำงานขวางทางเดิน จะทำให้ พลังงานไหลเวียนติดขัด การจัดเรียงเอกสารให้เรียบร้อย วางอุปกรณ์เป็นระเบียบ และจัดสายไฟให้เรียบร้อย ช่วยให้ความคิดไหลลื่นและพลังงานบวกหมุนเวียนดี
3. ใช้สีและของตกแต่งที่เสริมสมาธิและแรงบันดาลใจ
เลือกสีโทนสว่างหรือโทนอุ่น เช่น ขาว ฟ้าอ่อน ครีม หรือไม้ธรรมชาติ วางต้นไม้เล็ก ๆ ของตกแต่งที่สร้างแรงบันดาลใจ เพราะ สีและของตกแต่งสามารถกระตุ้นสมาธิและความคิดสร้างสรรค์
4. หลีกเลี่ยงมุมแหลมและสิ่งกีดขวาง
ขอบโต๊ะ ชั้นวาง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่แหลมชี้เข้าหาคุณสามารถสร้าง พลังงานคม (Sha Qi) ทำให้เกิดความเครียดหรือรู้สึกกดดัน จัดทางเดินให้โล่งและปรับมุมเฟอร์นิเจอร์ให้โค้งมน
5. แสงสว่างและอากาศถ่ายเท
ห้องทำงานควรมี แสงธรรมชาติหรือไฟเพียงพอ และอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อให้พลังงานหมุนเวียนไหลเวียนดี ช่วยให้สมองปลอดโปร่งและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
5 เทคนิค การเลือกซื้อบ้านให้เหมาะสมกับหลัก ฮวงจุ้ย ที่ดี
1. เลือกทิศของบ้านให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัย
ทิศบ้านส่งผลต่อ พลังงาน สุขภาพ และความสำเร็จ ของคนในบ้าน เช่น ทิศใต้เหมาะกับการเสริมความมั่งคั่ง ทิศตะวันออกเหมาะกับครอบครัวที่เน้นสุขภาพและความสดชื่น ตรวจสอบทิศให้ตรงกับดวงชะตาของผู้อยู่อาศัย จะช่วยเสริมพลังงานบวกและลดพลังงานติดขัด
2. ตรวจสอบตำแหน่งบ้านและรัศมีรอบบ้าน
บ้านที่อยู่ ตรงกลางหรือในซอยที่ปลอดภัย มักรับพลังงานดีง่ายกว่าบ้านที่อยู่ตรงทางสามแพร่งหรือปลายซอย เพราะมุมแหลมหรือจุดตัดพลังงานมากเกินไปสามารถสร้างพลังงานคม (Sha Qi) ทำให้คนในบ้านเครียดหรือไม่สบาย
3. เลขที่บ้านและทิศทางประตู
เลขที่บ้านควรเป็นเลขที่ เสริมโชคลาภและพลังงานบวก เช่น เลขคู่สำหรับบ้านที่เน้นความสงบและความรัก เลขคี่สำหรับบ้านที่เน้นความก้าวหน้าและกิจกรรม ส่วนประตูหน้าบ้านควรเปิดโล่ง ไม่อยู่ตรงกับมุมแหลมหรือเสาที่ชี้เข้าบ้าน เพื่อให้พลังงานดีไหลเข้าสู่บ้านอย่างเต็มที่
4. พื้นที่รอบบ้านโล่งและสะอาด
ตรวจสอบว่าบ้านมี พื้นที่รอบบ้านและสวนโล่งพอสมควร โล่งสะอาดช่วยให้พลังงานหมุนเวียนดีและไม่สะสมพลังงานลบ พลังงานที่ไหลเวียนดีส่งผลให้ชีวิตครอบครัวราบรื่น สุขภาพดี และโชคลาภไหลเข้าบ้าน
5. ตรวจสอบสภาพแวดล้อมและสิ่งกีดขวาง
บ้านที่ดีควรอยู่ใกล้ ธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ น้ำ หรือสวน และไม่อยู่ใกล้โรงงาน ถนนใหญ่ตรงหน้าบ้าน หรือมุมแหลมจากบ้านข้างเคียง สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างพลังงานลบหรือขัดขวางโชคลาภ การเลือกบ้านในสภาพแวดล้อมที่ดีช่วยให้พลังงานไหลเวียนราบรื่นและชีวิตครอบครัวสงบสุข
บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :
พาชม ผลงาน บิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น มินิมอล เอสต้า รังสิต คลอง 2 !!
5 ข้อดี ในการมี ฮวงจุ้ย บ้านที่ดี
1. เสริมความสุขและความสบายใจ
บ้านที่จัดฮวงจุ้ยดีจะทำให้ บรรยากาศภายในบ้านราบรื่นและผ่อนคลาย ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายตา ไม่อึดอัด ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวมีความสุขและความสัมพันธ์ที่ดี
2. พลังงานไหลเวียนดี ส่งเสริมความสำเร็จ
ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีช่วยให้ พลังงานไหลเวียนอย่างราบรื่น ส่งผลต่อความคิด การตัดสินใจ และโอกาสต่าง ๆ ทำให้ชีวิตและการงานมีความก้าวหน้า
3. เสริมโชคลาภและความมั่งคั่ง
การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยช่วย เปิดรับพลังงานบวกด้านเงินทองและโอกาสทางธุรกิจ เช่น การวางทางเข้าบ้าน โล่ง สะอาด และจัดตำแหน่งห้องต่าง ๆ ให้เหมาะสม จะช่วยกระตุ้นโชคลาภและความมั่งคั่ง
4. สุขภาพดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
บ้านที่สะอาด โล่ง และระบายอากาศดี ทำให้ พลังงานชีวิตหมุนเวียนอย่างเหมาะสม ลดความเครียด ส่งเสริมการนอนหลับ และทำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรง
5. สร้างบรรยากาศอบอุ่นและมีพลังบวก
ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีช่วยให้ บ้านเต็มไปด้วยพลังบวก ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และอยากใช้เวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น
สีมีความสำคัญ กับ ฮวงจุ้ย อย่างไร พร้อมบอกวิธีในการเลือกสีให้เหมาะสม
l ทำไมสีถึงสำคัญกับฮวงจุ้ย?
สีถือเป็น หนึ่งในตัวกระตุ้นพลังงานที่สำคัญ เพราะแต่ละสีสามารถสร้างอารมณ์และพลังงานต่างกัน เช่น สีโทนอุ่นช่วยให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย สีโทนเย็นช่วยให้ผ่อนคลายและสมาธิดี สีที่ถูกต้องสามารถ เสริมโชคลาภ สุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัว ในขณะที่สีที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้พลังงานติดขัดหรือสร้างความเครียด
l วิธีเลือกสีบ้านให้เหมาะกับหลักฮวงจุ้ย
-
เลือกสีตามทิศของบ้าน
-
ทิศเหนือ: เหมาะกับสีฟ้า น้ำเงิน หรือสีโทนเย็น เพื่อเสริมพลังน้ำและความสงบ
-
ทิศใต้: เหมาะกับสีแดง ส้ม หรือสีโทนอุ่น เพื่อเสริมพลังไฟและความก้าวหน้า
-
ทิศตะวันออก: เหมาะกับสีเขียวหรือโทนไม้ ช่วยเสริมพลังชีวิตและสุขภาพ
-
ทิศตะวันตก: เหมาะกับสีขาว เงิน หรือโทนสว่างสะอาด เพื่อเสริมโชคลาภและความคิดสร้างสรรค์
-
-
ใช้สีเพื่อกำหนดอารมณ์ของแต่ละห้อง
-
ห้องนอน: สีโทนอ่อน เช่น ฟ้าอ่อน ครีม เขียวอ่อน ช่วยให้ผ่อนคลาย หลับสบาย
-
ห้องครัว: สีโทนสว่างหรืออบอุ่น เช่น เหลือง ครีม โทนไม้ ช่วยสร้างพลังและความสดชื่น
-
ห้องนั่งเล่น: สีอบอุ่นหรือสดใส เช่น แดง ส้ม สีน้ำตาล ช่วยกระตุ้นความอบอุ่นและความสัมพันธ์ในครอบครัว
-
ห้องทำงาน: สีโทนเย็นหรือสว่าง เช่น ฟ้าอ่อน ขาว ครีม ช่วยเสริมสมาธิและความคิดสร้างสรรค์
-
-
หลีกเลี่ยงสีที่รุนแรงเกินไปในห้องที่ต้องการความสงบ
สีเข้มจัดหรือสดเกินไป เช่น แดงเข้ม หรือดำล้วน อาจสร้าง พลังงานตึงเครียด ไม่เหมาะกับห้องนอนหรือห้องพักผ่อน -
ผสมสีให้สมดุล
การใช้สีหลักร่วมกับสีเสริม เช่น ผนังโทนสว่างและเฟอร์นิเจอร์โทนอบอุ่น จะช่วยให้ พลังงานไหลเวียนอย่างสมดุล และบ้านดูสวยงามเป็นธรรมชาติ -
เลือกสีที่ตรงกับความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย
นอกจากหลักฮวงจุ้ยแล้ว สีควรทำให้คุณรู้สึก สบายใจและมีพลัง เพราะบ้านคือพื้นที่ชีวิตประจำวัน สีที่ถูกใจช่วยเสริมพลังบวกและลดพลังงานติดขัด
สรุปบทความ ไขข้อสงสัย!! ทำไมบ้านของเราถึงต้องมีฮวยจุ้ยที่ดี
บ้านที่มีฮวงจุ้ยดีไม่ใช่แค่เรื่องความเชื่อ แต่เป็นการจัดสภาพแวดล้อมให้ พลังงานภายในบ้านไหลเวียนอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายใจ สุขภาพดี และมีสมาธิในการใช้ชีวิตประจำวัน การจัดบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ยช่วยเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว ลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศอบอุ่น นอกจากนี้ยังช่วยเปิดรับโอกาสและโชคลาภให้ไหลเข้าบ้านได้อย่างราบรื่น
เทคนิคการจัดบ้านให้เหมาะกับฮวงจุ้ยมีหลายด้าน ทั้ง การจัดตำแหน่งห้อง เช่น ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องทำงาน การเลือก สีของห้องและวัสดุ ให้เหมาะสมกับทิศทางบ้าน รวมถึงการจัด บริเวณหน้าบ้านและทางเข้าบ้าน ให้โล่งสะอาดและมีแสงเพียงพอ การปรับองค์ประกอบเหล่านี้ช่วยให้พลังงานหมุนเวียนดี สร้างชีวิตที่ราบรื่น ปลอดภัย และเติมเต็มความสุขให้คนในบ้านอย่างแท้จริง