ปี 2568 นี้ เทรนด์การแต่งบ้านยังคงเน้นเรื่อง ความเป็นตัวเองผสมกับดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ใครที่กำลังจะรีโนเวทหรือสร้างบ้านใหม่ ลองมาดู 4 สไตล์แต่งบ้านยอดนิยม ที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมกันในปีนี้ ซึ่งแต่ละสไตล์ก็มีเสน่ห์ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นความหรูหรา ความอบอุ่น หรือความมินิมอลเรียบง่าย
ซึ่งในบทความนี้ SPSHOMEDESIGN ได้รวบรวมไว้ครบทั้ง บ้านสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นความคมชัดทันสมัย, บ้านสไตล์มินิมอล ที่อยู่แล้วสบายตาใจ, บ้านสไตล์ลักชัวรี่ ที่หรูหรามีระดับ ไปจนถึง บ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการผสมสผสานความคลาสสิคกับความโมเดิร์นที่มีความทันสมัย อย่างลงตัว ซึ่งถ้าใครที่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกแต่งบ้านแบบไหนดี บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอนครับ!
4 สไตล์ บิ้วอินบ้าน ยอดนิยมในปี 2568 !!
1. บิ้วอินบ้าน สไตล์โมเดิร์น (Modern Style)

ทำไม “บ้านสไตล์โมเดิร์น” ถึงฮิตไม่มีตกยุค ?
เพราะเสน่ห์ของบ้านสไตล์โมเดิร์นอยู่ที่ “ความเรียบที่มีระดับ” เมื่อบิ้วอินดีๆ เข้ามาเติมเต็ม จะช่วยยกระดับบ้านให้ดูเหมือนบ้านโชว์ในนิตยสาร ไม่ต้องแต่งอะไรเยอะก็สวยได้ ด้วยการเลือกใช้เส้นสายตรง คุมโทนวัสดุ และเลือกสีพื้นแบบขาว เทา ดำ ตัดด้วยไม้หรือโลหะ ทำให้บ้านดูแพงแต่ไม่เวอร์ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความหรูแบบไม่ต้องเยอะ

แนวทาง บิ้วอินบ้าน สไตล์โมเดิร์น
1. โทนสีต้องมีความทันสมัยและลงตัว
การคุมโทนสีคือหัวใจสำคัญของบ้านโมเดิร์น เช่น สีขาว เทา น้ำตาลเข้ม ดำ หรือโทนเอิร์ธโทนแบบอบอุ่น เพราะช่วยให้บรรยากาศดูเรียบหรู ไม่ฉูดฉาด และไม่ตกยุคง่าย การบิ้วอินควรเลือกใช้สีที่แมทช์กับพื้นและผนัง เพื่อให้ทุกอย่างดูกลมกลืนแบบมืออาชีพ
2. ลวดลายโดยรวมต้องมีความเฉียบคม ทันสมัย
ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ ลายหิน หรือเส้นสายของเฟอร์นิเจอร์ ทุกอย่างควรมีความคม ชัด ไม่ฟุ้งเฟ้อหรือลายตาเกินไป เช่น ลายไม้แนวตรง ลายหินเส้นสายชัดเจน และเส้นกรอบที่ออกแบบมาอย่างมีจังหวะ จะช่วยยกระดับความ “โมเดิร์น” ให้บ้านดูมีดีเทลแบบไม่ต้องเยอะ
3. เลือก Texture วัสดุต่างๆ ให้ทันสมัยและลงตัว
ผิวสัมผัส (Texture) ของวัสดุบิ้วอิน เช่น ลามิเนต ไม้ หิน หรือแผ่นกรุผนัง ควรเลือกที่ดูทันสมัย เช่น ผิวด้านเรียบ ผิวไม้ลายธรรมชาติ ผิวหินลายคมชัด หรือวัสดุเมทัลลิคแบบพรีเมียม จะช่วยเพิ่มมิติให้ห้องดูมีชั้นเชิง ไม่แบนราบ และยังคุมสไตล์ให้ทันสมัยแบบไม่หลุดธีม
4. สไตล์ของเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินต้องสวย ทันสมัย
เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินในบ้านโมเดิร์นควรมีดีไซน์ที่ “เน้นเส้นสายเรขาคณิต เรียบแต่ดูแพง” เช่น ตู้หน้าบานเรียบแบบไร้มือจับ, ชั้นวางที่มีเส้นกรอบคม หรือหัวเตียงกรุผนังแนวตั้ง โดยไม่ต้องประดับมาก แต่ต้องดูเนี๊ยบตั้งแต่แรกเห็น
5. ใช้ฟังก์ชันของเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินให้คุ้มค่า
การบิ้วอินที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้งานได้จริง เช่น ตู้ที่เก็บของได้เยอะโดยไม่เกะกะ, ชั้นที่วางของได้จริง, หรือโต๊ะทำงานที่มีปลั๊กซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ทั้งหมดนี้ช่วยให้บ้านดูโล่ง เรียบ และตอบโจทย์ชีวิตประจำวันแบบโมเดิร์นแท้ๆ

ข้อดีของการ บิ้วอินบ้าน สไตล์โมเดิร์น
ข้อดีของการบิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น คือการยกระดับบ้านให้ดูสวยหรูแบบไร้รอยต่อ (Seamless Design) ด้วยดีไซน์เรียบ ลื่น ไม่มีซอกหรือขอบนูน เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นกลืนไปกับผนัง ช่วยให้บ้านดูสะอาดตาและดูแพงแบบมินิมอลหรู พร้อมฟังก์ชันที่แอบซ่อนไว้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นปลั๊กไฟ ตู้เก็บของ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้ครบถ้วนแต่ไม่รกรุงรัง สไตล์โมเดิร์นยังดูแพงตั้งแต่แรกเห็น แม้ตกแต่งน้อย แต่ใช้โทนสี วัสดุ และไฟให้เป็น ก็ทำให้บ้านดูพรีเมียมแบบโรงแรมหรู นอกจากนี้ยังดูแลรักษาง่าย ไม่เก็บฝุ่น และช่วยให้บ้านดูใหม่อยู่เสมอ สุดท้ายคือการเพิ่มมูลค่าในระยะยาว เพราะบ้านที่บิ้วอินสไตล์นี้ด้วยวัสดุดี ดีไซน์ไม่ตกยุค จะเป็นที่ต้องการทั้งในตลาดเช่าและขาย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งในวันนี้และอนาคตครับ
บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :
10 เทคนิค บิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น ให้สวยหรูทันสมัยไม่มีเอ้าท์ !!
2. บิ้วอินบ้าน สไตล์โมเดิร์น คลาสสิค (Modern Classic Style)

ทำไม “บ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค” ถึงยอดฮิตในปัจจุบัน ?
บ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผสมผสานความหรูหราแบบผู้ดีเข้ากับดีไซน์เรียบเนี๊ยบของบ้านยุคใหม่อย่างลงตัว ไม่ต้องตกแต่งเยอะก็ยังดูแพง เส้นสายชัด คุมโทนแบบมีคลาส และจุดเด่นของบ้านสไตล์นี้ก็คืออยู่ได้ทุกวัย ไม่ตกเทรนด์ง่ายๆ เพราะดีไซน์คลาสสิคให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมอ ขณะที่โครงสร้างโมเดิร์นก็ทำให้บ้านดูทันสมัย ใช้งานสะดวก เป็นบ้านที่สะท้อนรสนิยมของเจ้าของได้อย่างแท้จริง ทั้งสวย หรู และอยู่สบายในระยะยาวครับ

แนวทาง บิ้วอินบ้าน สไตล์โมเดิร์น คลาสสิค
1. โทนสีของบ้านสไตล์นี้ต้องเป๊ะ ห้ามหลุดกรอบ
บ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค ต้องมีการคุมโทนอย่างพิถีพิถัน สีหลักที่ใช้มักเป็น “ขาว ดำ เทา ทอง” พร้อมผิวสัมผัสธรรมชาติ เช่น ลายไม้โอ๊ค หินอ่อน หรือลามิเนตลายผ้าทอ เพื่อให้บ้านดูละมุนแต่หรูหรา สีต้องแมตช์ทั้งผนัง เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งแบบไม่มีหลุดธีม
2. ลวดลายพื้นเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านสไตล์นี้หรูหราโดดเด่น
การเลือกพื้นบ้านไม่ใช่แค่เรื่องโทนสี แต่ต้องเลือก “ลาย” ให้ส่งเสริมภาพรวม เช่น ลายก้างปลาไม้ หรือหินขัดลายใหญ่โทนครีม-ทอง เพราะช่วยดึงบรรยากาศคลาสสิคให้โดดเด่นขึ้นแบบไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์เยอะ และยังทำให้บ้านดูมีมิติ น่าเดิน น่ามอง
3. คิ้วบัวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด
บ้านโมเดิร์น คลาสสิค จะขาด “คิ้วบัว” ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นบัวฝ้า บัวพื้น หรือกรอบผนัง ควรเลือกเป็นบัว PU หรือไม้ขึ้นลายเรียบหรู เพิ่มเส้นสายที่มีดีเทลเล็กน้อยพองาม จะช่วยให้บ้านดูไม่เรียบแบน แต่กลับมีมิติแบบผู้ดียุโรป สวยแบบดูไม่เยอะเกินไป
4. เลือกสไตล์การบิ้วอินเฟอร์นิเจอร์ให้มีความร่วมสมัย
เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินควรออกแบบให้มีความร่วมสมัย เช่น หัวเตียงบุนุ่มที่มีกรอบคิ้วทอง, ตู้ลอยกรุผนังด้วยลามิเนตลายหิน หรือชั้นวางของที่ซ่อนไฟสวยๆ จะช่วยเชื่อมความคลาสสิคกับความโมเดิร์นเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ไม่ตกยุค และไม่หลุดธีม
5. โคมไฟหรูหราและศิลปะเก๋ๆ ทำให้บ้านน่าค้นหามากขึ้น
ของตกแต่งเป็นสิ่งเติมชีวิตให้บ้าน เช่น โคมไฟระย้า โคมไฟแขวนดีไซน์ทองเหลือง หรือกรอบรูปศิลปะ Abstract สีเรียบๆ จะทำให้บ้านดูมีเสน่ห์ ชวนมอง และแสดงตัวตนของเจ้าของบ้านได้อย่างดี เป็นการเติมลูกเล่นให้โมเดิร์นคลาสสิคดูมี Story มากขึ้นครับ

ข้อดีของการ บิ้วอินบ้าน สไตล์โมเดิร์น คลาสสิค
ข้อดีของการบิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิค คือการผสมผสานความเรียบหรูทันสมัยของโมเดิร์นเข้ากับความอ่อนช้อยแบบคลาสสิคได้อย่างลงตัว การบิ้วอินช่วยสร้างความต่อเนื่องให้ดีไซน์ภายในทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็นคิ้วบัว กรอบผนัง หรือช่องไฟที่จัดวางอย่างพอดี ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบมาให้กลมกลืนกันหมด ทำให้บ้านดูมีรสนิยมแบบผู้ดีโดยไม่ต้องตกแต่งเยอะ อีกทั้งยังช่วยซ่อนโครงสร้างหรือระบบไฟให้บ้านดูเนี้ยบ พร้อมใช้งานทุกฟังก์ชันโดยไม่เสียความสวยงาม และเมื่อใช้วัสดุหรู เช่น หินอ่อน กระจกเงา หรือสีโทนขาวทอง ก็ยิ่งยกระดับบ้านให้ดูแพงขึ้นแบบไม่มีเอ้าท์ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบความหรูแบบมีคลาสและไม่อยากให้บ้านดูจืดหรือแข็งเกินไป
บทความน่าสนใจเพิ่มเติม :
6 เทคนิค บิ้วอินบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิค
3. บิ้วอินบ้าน สไตล์ Luxury (Modern Luxury Style)

บ้านสไตล์ Luxury อีกหนึ่งสไตล์ที่ยอดฮิตมาตลอด
บ้านสไตล์ Luxury กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนยุคนี้ เพราะให้มากกว่าความสวยหรู แต่ยังสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ชัดเจนทุกมิติ ด้วยการออกแบบที่พิถีพิถัน รายละเอียดเนี้ยบ วัสดุคุณภาพสูง และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันแบบมีระดับ ทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินในอนาคตได้ดี เป็นบ้านที่อยู่แล้วรู้สึกพิเศษทุกวัน ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อสะสมเป็นทรัพย์สิน ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าและคู่ควรกับคนที่รักในความมีระดับครับ (นี่คือตัวอย่างของบ้านสไตล์ Luxury)

5 แนวทาง บิ้วอินบ้าน สไตล์ Luxury
1. โทนสีต้องให้ความรู้สึกที่หรูหรา
โทนสีคือหัวใจของบ้านสไตล์ Luxury ควรเน้นสีที่ดูแพงและสุภาพ เช่น ขาวงาช้าง ครีมอ่อน เทาอมเบจ ทองแชมเปญ หรือดำเงาเล็กน้อย เพื่อสร้างความรู้สึกภูมิฐาน สงบ แต่ยังแฝงไว้ด้วยความอลังการแบบผู้ดีมีระดับ ยิ่งจับคู่กับวัสดุดีๆ ก็ยิ่งเสริมความหรูหราให้บ้านได้อย่างชัดเจน
2. เพิ่มวัสดุที่มีผิวสัมผัสเงา ดูหรูหรา
พื้นผิวที่สะท้อนแสงเล็กน้อย เช่น กระจกเงาสีชา กระจกดำ โลหะสีทองขอบบาง หรือผิวพ่นเงาแบบ High Gloss ช่วยให้พื้นที่ดูมีมิติและลักชัวรีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่ต้องใช้ของตกแต่งเยอะ วัสดุพวกนี้ยังสามารถช่วยกระจายแสงไฟให้สว่างนุ่มนวลทั่วห้อง เพิ่มความพรีเมียมแบบเงียบๆ แต่เฉียบมากครับ
3. บิ้วอินเฟอร์นิเจอร์ต้องสมดุล ไม่หรูแบบตะโกน
แม้จะเป็นสไตล์ Luxury ก็ไม่จำเป็นต้องฟู่ฟ่าเกินไป การบิ้วอินควรเลือกดีไซน์ที่มีเส้นสายชัด เรียบเนี๊ยบ มีลูกเล่นน้อยแต่วัสดุดี เช่น ตู้ผิวมันวาวสีอ่อนตัดด้วยเส้นทองบางๆ หรือเฟอร์นิเจอร์เรียบแต่มี Texture พิเศษ การหรูแบบมีชั้นเชิง จะทำให้บ้านดูแพงขึ้นในแบบที่ไม่ต้องพยายามเยอะครับ
4. แสงไฟเป็นสิ่งสำคัญต่อความหรูหราของวัสดุ
การเลือกไฟไม่ใช่แค่เพื่อความสว่าง แต่คือการเสริมบรรยากาศให้วัสดุต่างๆ โดดเด่นและดูแพงยิ่งขึ้น เช่น ไฟซ่อนใต้ชั้น ติดไฟ Warm White ส่องผนังหินอ่อน หรือไฟส่องเฉพาะจุดให้กับของตกแต่งสำคัญ แสงที่ดีจะเปลี่ยนวัสดุธรรมดาให้กลายเป็นของลักชัวรีได้เลยครับ
5. เพิ่มวัสดุพื้นผิวธรรมชาติให้ลงตัวขึ้น
บ้าน Luxury ไม่ได้มีแค่ความเงา แต่ยังต้องมีความ “กลมกลืน” ด้วยการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติอย่าง หินอ่อน พื้นลายไม้ หรือไม้ veneer สีอ่อน เพราะช่วยเพิ่มสัมผัสที่อบอุ่น มีมิติ ไม่แข็งจนเกินไป และยังคงไว้ซึ่งความหรูหราแบบเป็นธรรมชาติ ยิ่งจับคู่กับไฟและสีที่เหมาะสมก็ยิ่งยกระดับความหรูขึ้นอีกขั้น

ข้อดีของการ บิ้วอินบ้าน สไตล์ Luxury
บ้านสไตล์ Luxury มีข้อดีชัดเจนตรงที่ “อยู่แล้วรู้สึกพิเศษ” เพราะทุกส่วนของบ้านถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หินอ่อน ไม้แท้ หรือกระจกเงาสีชา ที่ทั้งสวยและทนทาน การบิ้วอินที่คิดมาแล้วอย่างสมดุล ไม่เยอะเกินแต่ก็ไม่ธรรมดา ทำให้บ้านดูหรูแบบมีรสนิยม แถมยังมีระบบไฟและการจัดแสงที่ช่วยขับให้วัสดุทุกชิ้นดูโดดเด่นขึ้นอีกขั้น และที่สำคัญคือ บ้านสไตล์นี้ไม่เพียงน่าอยู่ในวันนี้ แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินในอนาคต เพราะดีไซน์หรูแบบไร้กาลเวลาไม่ตกเทรนด์ง่ายๆ ครับ
4. บิ้วอินบ้าน สไตล์มินิมอล (Minimal Style)

ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงนิยม บิ้วอินบ้าน สไตล์มินิมอลกันเยอะ?
บ้านสไตล์มินิมอลเป็นสไตล์ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่อย่างแท้จริง เพราะให้ความรู้สึก “ผ่อนคลาย อบอุ่น และปลอดภัย” เสมือนเป็น safe zone ที่ช่วยตัดขาดจากความวุ่นวายภายนอกบ้านได้อย่างดี ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย เน้นพื้นที่โล่ง ใช้โทนสีอ่อนสบายตา และวัสดุธรรมชาติเช่นไม้หรือพื้นลายอ่อน ทำให้บรรยากาศภายในบ้านรู้สึกนิ่ง สงบ ไม่รกสายตา อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินยังถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานจริงโดยไม่เกินความจำเป็น ส่งผลให้บ้านดูสะอาด น่าอยู่ และกลายเป็นพื้นที่ที่ใจอยากกลับมาเสมอครับ

แนวทาง บิ้วอินบ้าน สไตล์มินิมอล
1. Less is more คือคอนเซ็ปต์ของความมินิมอล
หัวใจของการแต่งบ้านมินิมอลคือการ “ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็น” เพื่อให้เหลือไว้แค่ความเรียบง่ายที่ใช้งานได้จริง การบิ้วอินจึงควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีเส้นสายเรียบ ไม่มีลวดลายเกินจำเป็น และจัดวางให้บ้านโล่ง โปร่ง ไม่อึดอัด ยิ่งน้อยชิ้น แต่คิดมาแล้วอย่างดี บ้านก็จะยิ่งดูสงบและน่าอยู่ขึ้นครับ
2. วัสดุพื้นผิวธรรมชาติคือจุดเด่นสำคัญ
บ้านมินิมอลมักเลือกใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น พื้นไม้ SPC สีอ่อนๆ หรือเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินลายไม้ธรรมชาติที่ไม่มันวาวเกินไป รวมถึงการแทรกต้นไม้ปลอมไว้บางจุดเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับห้อง วัสดุแบบนี้ช่วยให้บ้านดูอบอุ่น สบายตา และยังคงกลิ่นอายธรรมชาติไว้ในทุกมุม
3. ฟังก์ชันของเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินต้องใช้งานง่าย
บ้านมินิมอลที่ดีไม่ใช่แค่ดูสะอาดตา แต่ต้องใช้งานได้จริง เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินควรออกแบบให้ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เก็บของแบบบานเปิดเรียบ ชั้นวางของซ่อนหลังบาน หรือโต๊ะทำงานที่รวมปลั๊กไว้ในตัว เพื่อให้ทุกอย่างดูเป็นระเบียบและใช้งานได้สะดวกโดยไม่ต้องพึ่งของลอยตัวให้บ้านรก
4. โทนสีต้องสื่อถึงความอบอุ่น
โทนสีในบ้านสไตล์มินิมอลควรเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เช่น ขาวนวล เทาอ่อน น้ำตาลเบจ หรือเอิร์ธโทน เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่แข็งเกินไป สีเหล่านี้ยังเข้ากับวัสดุลายไม้และแสงธรรมชาติได้ดี ทำให้บ้านรู้สึกเป็นมิตร อยู่แล้วไม่เบื่อ และช่วยเติมพลังใจทุกครั้งที่กลับมาบ้านครับ
5. แสงธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญ
บ้านมินิมอลที่ดูดีจริงๆ จะให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ม่านโปร่ง หรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้บังแสง เพราะแสงจากธรรมชาติช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง และสดชื่นโดยไม่ต้องตกแต่งเยอะ นี่คือเคล็ดลับเล็กๆ ที่ทำให้บ้านดูแพงแบบไม่ต้องพยายาม

ข้อดีของการ บิ้วอินบ้าน สไตล์มินิมอล
การบิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอล ช่วยให้บ้านดูเป็นระเบียบ เรียบง่าย และสบายตา เพราะทุกเฟอร์นิเจอร์ถูกออกแบบให้พอดีกับพื้นที่ ลดของลอยตัวที่ทำให้บ้านดูรก และซ่อนของได้อย่างแนบเนียน ส่งผลให้บรรยากาศในบ้านโล่ง โปร่ง และผ่อนคลายมากขึ้น อีกทั้งยังตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชันใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เก็บของแบบเรียบเนียน โต๊ะทำงานบิ้วติดผนัง หรือชั้นเก็บของซ่อนสายตา เมื่อรวมกับโทนสีอ่อนและวัสดุธรรมชาติ ก็ยิ่งเสริมให้บ้านกลายเป็นพื้นที่สงบ เป็น safe zone ที่อยู่แล้วรู้สึกอบอุ่นและพักใจได้ในทุกวันครับ
5 ข้อควรรู้ก่อนลงมือ บิ้วอินบ้าน ของตัวเอง

1. ต้องรู้จัก “สไตล์” ที่ตัวเองชอบให้ชัดเจน
ก่อนเริ่มบิ้วอิน อย่าเพิ่งรีบจ้างช่างหรือเลือกวัสดุ ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองชอบแนวไหน เพราะสไตล์ที่เลือกจะส่งผลกับทุกอย่าง ทั้งสี วัสดุ รูปทรง และการจัดวาง เช่น ถ้าชอบสไตล์มินิมอล ดีไซน์จะต้องเรียบและโล่ง แต่ถ้าเป็นสไตล์ Luxury ก็จะเน้นความหรู รายละเอียดเยอะขึ้น ดังนั้นแนะนำให้รวบรวมภาพตัวอย่างหรือ mood board ไว้ก่อน เพื่อสื่อสารกับนักออกแบบได้ตรงใจครับ
2. วัดขนาดพื้นที่จริงให้แม่นยำ
การบิ้วอินคือการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้ “พอดีเป๊ะ” กับพื้นที่จริง การวัดขนาดห้อง, ความสูงฝ้า, ช่องแสง หรือปลั๊กไฟ จึงต้องแม่นยำ เพราะถ้าขนาดผิดเพียงไม่กี่เซนติเมตร อาจทำให้ตู้ไม่พอดีกับผนังหรือบังหน้าต่างได้เลย แนะนำให้ให้มืออาชีพวัดพื้นที่หน้างานก่อนเริ่มออกแบบทุกครั้ง จะช่วยป้องกันปัญหาเสียเวลาและงบบานปลายได้ครับ
3. ตั้งงบประมาณให้ชัด พร้อมเผื่อไว้สำหรับค่าใช้จ่ายแฝง
งานบิ้วอินมีทั้งราคาหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนขึ้นอยู่กับวัสดุ ดีไซน์ และความซับซ้อน เพื่อนๆ จึงควรกำหนดงบไว้ล่วงหน้า เช่น งบรวม 200,000 บาท พร้อมเผื่อฉุกเฉินไว้อีก 10–15% สำหรับกรณีที่อยากเปลี่ยนวัสดุ หรือมีค่าเดินระบบไฟเพิ่มระหว่างงาน การมีงบชัดเจนจะช่วยให้เลือกวัสดุและดีไซน์ได้ง่าย และไม่เจอเซอร์ไพรส์ตอนจ่ายเงินครับ
4. เลือกวัสดุให้เหมาะกับการใช้งานจริง
วัสดุที่ดูสวยในโชว์รูม อาจไม่เหมาะกับบ้านเราเสมอไป เช่น ถ้ามีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง พื้นผิวที่เป็นรอยง่ายหรือวัสดุเงาเกินไปอาจดูแลยาก แนะนำให้เลือกวัสดุที่ทนทาน เช่น ไม้ลามิเนตกันน้ำ ผิวเมลามีน หรือพื้น SPC ซึ่งทั้งดูดีและใช้งานได้จริงในระยะยาว นอกจากนี้ยังควรดูเรื่องการกันชื้น กันรอยขีดข่วน และการดูแลรักษาร่วมด้วย
5. เลือกทีมช่างหรือนักออกแบบที่ไว้ใจได้
การบิ้วอินบ้านไม่ใช่แค่เรื่องสวย แต่เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดและประสบการณ์สูง ดังนั้นควรเลือกทีมช่างที่มีผลงานชัดเจน มีรีวิวจากลูกค้าเก่า และพร้อมให้คำแนะนำด้านเทคนิคและดีไซน์ก่อนเริ่มงานจริง หากเลือกได้ดี จะช่วยให้ทั้งการออกแบบและการติดตั้งราบรื่น ได้งานสวย และไม่ต้องเสียเวลาแก้งานบ่อยครับ
5 เหตุผล ทำไมควรเลือก SPS HOME DESIGN มา บิ้วอินบ้าน ของคุณ

1. เราเลือกใช้ไม้ HMR เกรดท็อปสุดในทุกงานบิ้วอิน
เพราะเราเชื่อว่าบ้านหรูต้องอยู่ได้นาน ไม่ใช่แค่สวยช่วงแรกๆ ไม้ HMR (High Moisture Resistance) ที่เราใช้มีคุณสมบัติทนความชื้นสูงกว่าพาร์ติเคิลบอร์ดทั่วไป ไม่บวม ไม่บิดงอง่าย และเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยที่มีความชื้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในห้องครัว ห้องน้ำ หรือบริเวณที่ติดแอร์ เปิด–ปิดบ่อย ไม้ชนิดนี้ยังมีพื้นผิวเรียบแน่น ทำให้ติดลามิเนตได้แนบสนิทและสวยงามแบบงานพรีเมียม
2. เราใช้ลามิเนตลายสมจริงมากที่สุดในไทย
พื้นผิวและลวดลายคือสิ่งที่สร้างความรู้สึก “หรู” ในบ้านได้อย่างแท้จริง เราคัดสรร ลามิเนตลายไม้ ลายหิน ลายหนัง ที่ให้สัมผัสเสมือนวัสดุจริงมากที่สุด ทั้งในเรื่องของผิวสัมผัส (Texture) และการจับแสงเงา ไม่ใช่แค่ภาพพิมพ์เหมือนทั่วไป ทำให้เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ตู้หรือผนังจะดูพรีเมียมเหมือนบ้านยุโรปหรือโรงแรมระดับ 5 ดาว
3. เราออกแบบเฉพาะให้เข้ากับสไตล์บ้านของแต่ละคน
เราไม่ใช้แบบสำเร็จรูปหรือดีไซน์ที่ซ้ำกับใคร ทุกงานบิ้วอินจะผ่านการวิเคราะห์สไตล์บ้าน พื้นที่ใช้สอย และไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านโดยละเอียด ไม่ว่าคุณจะชอบ บ้านสไตล์โมเดิร์นหรู (Modern Luxury), คลาสสิคยุโรป หรือมินิมอลอบอุ่น เราสามารถออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินกลมกลืนกับทุกมุมของบ้านได้อย่างลงตัว
4. ทีมช่างมืออาชีพ ประสบการณ์กว่า 10 ปี
เบื้องหลังงานสวยคือฝีมือของทีมช่างของเรา ที่ผ่านงานบ้านหรูมาหลากหลายโครงการ ทีมงานของเราเข้าใจดีว่าการติดตั้งบิ้วอินต้องอาศัยความละเอียด ความเนี้ยบ และการวัดพื้นที่แบบมืออาชีพ ทุกจุดที่ติดตั้งจะต้องเป๊ะ ไม่มีเบี้ยว ไม่มีช่องว่าง ไม่ทิ้งรอยต่อที่ทำให้บ้านดูราคาถูก
5. งานเร็ว ตรงเวลา พร้อมบริการหลังการขาย
เราให้ความสำคัญกับระยะเวลาติดตั้งและการส่งมอบงานตามที่ตกลงไว้ เพราะเราเข้าใจว่าการทำบ้านคือเรื่องใหญ่สำหรับเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ เรายังมี บริการตรวจสอบและดูแลหลังการติดตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่างานของเราจะอยู่กับคุณอย่างสมบูรณ์แบบ
สรุปบทความ 4 สไตล์ บิ้วอินบ้าน ยอดนิยมในปี 2568!!
ไม่ว่าเพื่อนๆ จะกำลังวางแผนสร้างบ้านใหม่ รีโนเวท หรือแค่ปรับโฉมบ้านให้ดูดีขึ้น การรู้จักและเข้าใจ “สไตล์บิ้วอิน” ที่ใช่สำหรับตัวเอง คือก้าวแรกที่จะทำให้บ้านออกมาสวยแบบมีทิศทางและสะท้อนตัวตนได้อย่างแท้จริง ซึ่งในปี 2568 นี้ 4 สไตล์บิ้วอินที่มาแรงและได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ สไตล์ Luxury, มินิมอล, โมเดิร์น คลาสสิค และ โมเดิร์น ซึ่งแต่ละแบบก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวและเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไป
ใครที่หลงใหลในความหรูหราน่าอยู่แบบโรงแรม 5 ดาว สไตล์ Luxury คือคำตอบที่ใช่ เพราะให้ความรู้สึกแพง มีรสนิยม และจัดองค์ประกอบแบบเป๊ะทุกมุม ส่วนสายเรียบง่าย ชอบบ้านโล่ง โปร่ง อยู่แล้วสบายใจ บ้านสไตล์มินิมอลก็ยังคงเป็นขวัญใจอันดับต้นๆ โดยเฉพาะกับคนยุคใหม่ที่ต้องการ Safe Zone ไว้พักใจจริงๆ ขณะที่สไตล์โมเดิร์น คลาสสิค เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความหรูแบบละมุน ไม่จัดจ้านเกินไป แต่ยังดูสง่างาม และสุดท้ายกับ Japandi ที่มาแรงไม่แพ้กัน เพราะผสมผสานความนิ่งสงบของญี่ปุ่น เข้ากับความอบอุ่นแบบสแกนดิเนเวียได้อย่างพอดี ชวนให้อยากอยู่บ้านมากขึ้นทุกวัน
สรุปแล้ว การเลือกสไตล์บ้านให้ “สวย โดนใจ และอยู่ได้นาน” ไม่จำเป็นต้องตามกระแสเสมอไป แต่ควรเริ่มจากการรู้ว่าเราอยากให้บ้านให้ความรู้สึกแบบไหน ถ้าเพื่อนๆ เลือกสไตล์ที่ตรงกับใจและตอบโจทย์การใช้งานจริง ไม่ว่าจะบิ้วอินห้องไหน บ้านก็จะกลายเป็นที่ที่พิเศษที่สุดเสมอครับ
Post Views: 28