เจาะลึก พื้นลามิเนต คืออะไร มีข้อดีอย่างไรบ้าง ?

พื้นลามิเนต (Laminate Flooring) เป็นพื้นประเภทหนึ่งที่มีการออกแบบให้เลียนแบบวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน หรือกระเบื้อง โดยมีลักษณะเป็นแผ่นเรียบที่ประกอบด้วยหลายชั้น วัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตพื้นลามิเนตคือแผ่นใยไม้อัด (HDF หรือ MDF) และชั้นเคลือบพิเศษที่ช่วยเพิ่มความทนทานและการดูแลรักษาที่ง่าย นี่คือรายละเอียดของพื้นลามิเนต โดยวันนี้เราจะมาเจาะลึกเเละวิธีเลือกใช้พื้นลามิเนตให้เหมาะกับบ้านของทุกๆคน


โครงสร้างของพื้นลามิเนต มีอะไรบ้าง ?

1.ชั้นบนสุด (Wear Layer)

วัสดุ: ทำจากเรซินชนิดพิเศษ (อาจเป็นเมลามีน) ที่เคลือบพื้นเพื่อป้องกันการสึกหรอและรอยขีดข่วน

คุณสมบัติ: ทนทานต่อการขีดข่วน, การสึกหรอ, และรอยด่างจากของเหลวเบื้องต้น เช่น น้ำและน้ำมัน

2.ชั้นลาย (Design Layer)

วัสดุ: ชั้นนี้มักจะเป็นฟิล์มพิมพ์ลายที่เลียนแบบวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ หิน หรือกระเบื้อง

คุณสมบัติ: ลายที่พิมพ์ออกมาเป็นภาพสามมิติที่มีความละเอียดสูง ซึ่งให้รูปลักษณ์ที่เหมือนจริง

3.ชั้นกลาง (Core Layer)

วัสดุ: ทำจากแผ่นใยไม้อัด (HDF หรือ MDF) ที่มีความหนาแน่นสูง

คุณสมบัติ: ชั้นนี้ให้ความแข็งแรงและความทนทาน รวมถึงมีคุณสมบัติป้องกันการบิดงอหรือการโค้งงอ

4.ชั้นรอง (Backing Layer)

วัสดุ: เป็นชั้นที่ทำจากวัสดุกันน้ำหรือโพลีเอสเตอร์

คุณสมบัติ: ช่วยป้องกันความชื้นจากพื้นด้านล่างและเพิ่มความเสถียรของแผ่นพื้น

ซึ่งความทนทานของพื้นลามิเนตไม่ได้ขึ้นอยู่แค่จำนวนชั้น แต่มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพและความทนทานของพื้นลามิเนต รวมถึงวัสดุที่ใช้และการออกแบบของแต่ละชั้นนั่นเอง


คุณสมบัติหลักของพื้นลามิเนต

1.ความทนทาน

ทนต่อรอยขีดข่วน: ชั้นเคลือบช่วยป้องกันพื้นจากการขีดข่วนและการสึกหรอ

ทนต่อรอยด่าง: สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและไม่เกิดรอยด่างจากของเหลวเบื้องต้น

2.การดูแลรักษา

การทำความสะอาด: ทำความสะอาดง่ายด้วยไม้ถูพื้นหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ

ไม่ต้องทาสีใหม่: แตกต่างจากพื้นไม้จริงที่อาจต้องการการทาสีหรือเคลือบใหม่

3.ความสะดวกในการติดตั้ง

ระบบคลิก (Click System): ทำให้การติดตั้งสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้กาว

การติดตั้งแบบกาว (Glue Down): บางรุ่นอาจติดตั้งด้วยกาวเพื่อความมั่นคง

4.รูปลักษณ์สวยงาม มีหลายเเบบ

ลวดลายและสี: มีลวดลายและสีที่หลากหลาย สามารถเลียนแบบวัสดุธรรมชาติได้อย่างดี


ข้อดีและข้อเสียของพื้นลามิเนต

ข้อดี:

  • ราคาประหยัดเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุธรรมชาติ
  • ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
  • ความทนทานสูงต่อการขีดข่วนและการสึกหรอ
  • มีลวดลายและสีที่หลากหลายให้เลือก

ข้อเสีย:

  • ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ
  • อาจเกิดการบิดงอหรือเสียหายจากน้ำหรือความชื้น
  • อาจไม่มีความรู้สึกของความอบอุ่นหรือความเป็นธรรมชาติเท่ากับพื้นไม้จริง

วิธีเลือกพื้นลามิเนตที่มีความทนทาน เเละเหมาะสมกับบ้านของเรา

1.ตรวจสอบความหนาของชั้นเคลือบ

เลือกพื้นลามิเนตที่มีความหนาของชั้นเคลือบมาก (มักระบุเป็น AC Rating) ซึ่งจะแสดงถึงระดับการทนทานต่อการสึกหรอ เช่น AC1, AC2, AC3, AC4, AC5 โดย AC5 จะทนทานที่สุดและเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก

2.ตรวจสอบวัสดุของชั้นกลาง

เลือกพื้นลามิเนตที่ใช้แผ่นใยไม้อัด (HDF) หรือ MDF ที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งช่วยให้พื้นมีความทนทานและสามารถทนต่อการบิดงอได้ดี

3.พิจารณาการป้องกันความชื้น

ตรวจสอบว่าพื้นลามิเนตมีการเคลือบที่ดีและมีชั้นป้องกันความชื้นที่มีคุณภาพ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความชื้นที่อาจทำให้พื้นบิดงอหรือเสียหาย

4.ดูลักษณะการติดตั้ง

เลือกพื้นลามิเนตที่มีระบบการติดตั้งแบบคลิก (Click System) ซึ่งช่วยลดปัญหาการบิดงอและป้องกันการลื่นไหลของแผ่นพื้น

5.ทดสอบการใช้งานจริง

หากเป็นไปได้ ควรทดสอบการเดินบนพื้นลามิเนตและตรวจสอบความรู้สึกการใช้งานจริง รวมถึงตรวจสอบรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้คนอื่นๆ

6.พิจารณาคุณภาพการผลิต

เลือกซื้อจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและมีการรับประกันคุณภาพสินค้า ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจในความทนทานและความเสถียรของพื้นลามิเนต

สรุปบทความ

พื้นลามิเนต (Laminate Flooring) เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตกแต่งพื้นบ้าน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าและความสะดวกในการดูแลรักษา พื้นลามิเนตประกอบด้วยหลายชั้นที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างพื้นที่ทนทานและสวยงาม ซึ่งประกอบด้วยชั้นเคลือบป้องกันรอยขีดข่วน, ชั้นลายที่เลียนแบบวัสดุธรรมชาติ, ชั้นกลางที่ให้ความแข็งแรง, และชั้นรองที่ช่วยป้องกันความชื้น

ข้อดีของพื้นลามิเนต ได้แก่:

  • ความทนทานสูง: ทนต่อการขีดข่วน, การสึกหรอ, และรอยด่าง ทำให้เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก
  • การดูแลรักษาที่ง่าย: ทำความสะอาดง่ายด้วยไม้ถูพื้นหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ โดยไม่ต้องทาสีใหม่
  • การติดตั้งสะดวก: ระบบคลิกทำให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
  • ลวดลายและสีที่หลากหลาย: สามารถเลือกจากลวดลายและสีที่หลากหลายเพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายในที่ต้องการ

แม้ว่าพื้นลามิเนตจะมีข้อดีมากมาย แต่ยังต้องพิจารณาสภาพแวดล้อมและการใช้งาน เช่น ความชื้น เพื่อให้เลือกพื้นลามิเนตที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างดีที่สุด