เคล็ด(ไม่)ลับ บิ้วอินบ้าน ยังไงให้สวยหรูแถมประหยัดงบ !!

เคล็ด(ไม่)ลับ บิ้วอินบ้าน ยังไงให้สวยหรูแถมประหยัดงบ !!

บิ้วอินบ้าน คือทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่อยากให้บ้านดูสวยเป็นระเบียบ ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า และสะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม การวางแผนบิ้วอินที่ดีตั้งแต่ต้น จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาคุ้มค่าและตรงใจ ซึ่งบทความนี้ SPS HOME DESIGN จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนเริ่มบิ้วอินบ้าน พร้อมเทคนิคและไอเดียดีๆ ที่ไม่ควรพลาด


บิ้วอินบ้าน คืออะไร ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวยังไง ?

   ถ้าเพื่อนๆ เคยเข้าไปในบ้านตัวอย่างของโครงการหรูๆ แล้วรู้สึกว่า “ทำไมบ้านดูเรียบร้อย ดูหรูจังเลย” คำตอบหนึ่งก็คือ เพราะเขาใช้เฟอร์นิเจอร์บิ้วอินครับ – บิ้วอินบ้าน (Built-in) คือการตกแต่งภายในโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบให้ติดกับโครงสร้างบ้านโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน เคาน์เตอร์ครัว หรือชั้นวางทีวี ทุกอย่างจะถูกวัดพื้นที่จริงและผลิตขึ้นมาให้ “พอดีเป๊ะ” กับมุมที่เราต้องการใช้ ไม่เหลือช่องว่าง ไม่เสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์

   โดยเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ต้องซื้อมาแล้วมานั่งลุ้นว่า “จะพอดีไหม” หรือ “จะเหลือซอกมุมรกๆ รึเปล่า” – งานบิ้วอินจะช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป แถมยังทำให้บ้านดูสะอาดตา เป็นระเบียบ และสอดรับกับสไตล์การแต่งบ้านที่เราชอบได้แบบไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะเป็นมินิมอลอบอุ่น โมเดิร์นเรียบหรู หรือคลาสสิคมีดีเทล บิ้วอินคือคำตอบของบ้านที่ไม่ใช่แค่ “อยู่ได้” แต่ “อยู่ดี” ด้วยครับ


ประโยชน์ของการ บิ้วอินบ้าน (Built-in บ้านดีอย่างไร?)

ช่วยให้บ้านเป็นระเบียบมากขึ้น

บิ้วอินบ้าน ดียังไง

หากเพื่อนๆ รู้สึกว่าบ้านเริ่มรก หรือของเริ่มกองตามมุมต่างๆ แบบที่ไม่อยากให้แขกเห็น งานบิ้วอินคือคำตอบที่ใช่ที่สุด เพราะการ บิ้วอินบ้านให้เป็นระเบียบ นั้นทำได้ด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้สอดรับกับโครงสร้างผนังและพื้นที่จริง ไม่เหลือซอกเหลือมุมให้ของวางเละเทะ ทุกสิ่งถูกจัดเก็บไว้หลังบานตู้ที่ดูเรียบเนียน เหมือนบ้านตัวอย่างในโครงการหรู ที่แม้มีของเยอะ แต่ก็ดูสะอาดตาเสมอ


ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่า

บิ้วอินบ้านบิ้วอินห้องครัว

บ้านหลังเล็กหรือคอนโดขนาดจำกัด ไม่ใช่อุปสรรคของความสวยงามเลย ถ้ารู้จักวิธี บิ้วอินบ้านพื้นที่น้อย ให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะบิ้วอินสามารถออกแบบให้เจาะพื้นที่เป๊ะๆ ไม่ปล่อยให้มุมไหนไร้ค่า เช่น ใต้บันได ผนังปลายเตียง หรือเหนือประตู ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นที่เก็บของแบบชาญฉลาด ทำให้บ้านที่ดูแคบ กลับดูโล่งขึ้นทันที เพราะทุกตารางนิ้วมีหน้าที่ของมันอย่างแท้จริง


เพิ่มฟังก์ชันใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย

ห้องนอนผู้หญิงสไตล์โมเดิร์น

ข้อดีที่สำคัญอีกข้อหนึ่งของการบิ้วอินก็คือ “ความเฉพาะตัว” ที่หาไม่ได้จากเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป เพราะเราสามารถ ออกแบบบิ้วอินบ้านให้ตอบโจทย์การใช้งาน ได้ตามไลฟ์สไตล์จริงๆ เช่น ถ้าชอบทำอาหาร ก็ออกแบบครัวให้มีตู้เก็บของลึกพิเศษ หรือถ้าทำงานที่บ้าน ก็ใส่ช่องซ่อนสายชาร์จ หรือไฟ LED เข้ามาในโต๊ะทำงานได้เลย การบิ้วอินไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่คือการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ


ดีไซน์เข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ ทั้งโมเดิร์น มินิมอล หรือคลาสสิค

บิ้วอินบ้าน ห้องนั่งเล่นสวยๆ

ไม่ว่าจะชอบบ้านแนวไหน การบิ้วอินก็พร้อมเสริมลุคให้บ้านคุณได้แบบไร้รอยต่อ เพราะสามารถเลือกวัสดุ ลวดลาย หรือสีสันให้ตรงกับธีมโดยรวมได้ เช่น ใช้ไม้ลามิเนตโทนอ่อนในบ้านสไตล์ Japandi หรือใช้หินอ่อนและเส้นทองในบ้านแนว Luxury Classic การหา ไอเดียบิ้วอินบ้านสวยๆ ที่เข้ากับสไตล์ของคุณ จึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะบิ้วอินคือดีไซน์ที่เกิดจากคุณเป็นคนกำหนด


ซ่อนสายตา ซ่อนของรกๆ ให้บ้านดูโล่งโปร่ง

บิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอล

หลายบ้านดูรก ไม่ใช่เพราะมีของเยอะ แต่เพราะ “ไม่มีที่เก็บของที่ดีพอ” — การ ตกแต่งบ้านให้โล่งด้วยงานบิ้วอิน คือหนึ่งในวิธีแก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุด ตู้เก็บของแบบปิดเรียบหรือช่องซ่อนต่างๆ ช่วยให้สิ่งของในบ้านไม่ล้นออกมาให้เห็นจนเสียบรรยากาศ และเมื่อของหายไปจากสายตา บ้านก็จะดูสบาย โล่ง โปร่ง และน่าอยู่ขึ้นแบบชัดเจนทันที


ประหยัดค่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวในระยะยาว

บิ้วอินห้องนอน

แม้การทำบิ้วอินจะต้องวางแผนและใช้งบตั้งต้นมากกว่าการซื้อของสำเร็จรูป แต่ในระยะยาว กลับช่วยประหยัดได้มากกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเราไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยๆ หรือซื้อของหลายชิ้นมาประกบกันให้พอดี การ บิ้วอินบ้านแทนเฟอร์นิเจอร์ ช่วยให้ทุกอย่างจบในครั้งเดียว แข็งแรง ทนทาน และกลมกลืนไปกับบ้าน ทำให้บ้านดูมีความต่อเนื่องและดูแพงแบบไม่ต้องพยายาม


เสริมความหรูหราแบบมีคลาส เหมือนบ้านตัวอย่าง

บิ้วอินห้องนั่งเล่นหรูๆ

หลายคนชอบเดินชมบ้านตัวอย่าง เพราะมันดูเนี้ยบ ดูแพง และดูเป็นระเบียบ นั่นเพราะทุกจุดในบ้านถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยงานบิ้วอินนั่นเอง การ บิ้วอินบ้านสไตล์หรู ไม่จำเป็นต้องใช้ของราคาแพงเสมอไป แต่เป็นเรื่องของ “การออกแบบ” ที่ใช้วัสดุให้ดูมีระดับ ใช้สีที่สื่อถึงความพรีเมียม และใช้เส้นสายที่ชัดเจน ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของบ้านให้ดูน่าประทับใจ เหมือนมีอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ส่วนตัวมาช่วยจัดให้


จุด บิ้วอินบ้าน ยอดนิยม ที่คนไทยนิยมบิ้วอินมากที่สุด

เวลาพูดถึงการตกแต่งบ้านด้วยงานบิ้วอิน หลายคนอาจนึกถึงแค่ตู้เสื้อผ้าหรือเคาน์เตอร์ครัวเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว มีหลายจุดในบ้านที่คนไทยนิยมทำบิ้วอิน เพราะทั้งสวย ใช้งานได้จริง และทำให้บ้านดูหรูมีระดับขึ้นอย่างชัดเจน มาดูกันว่า “จุดบิ้วอินยอดนิยม” ที่เจ้าของบ้านยุคนี้เลือกทำมากที่สุด มีตรงไหนกันบ้าง

บิ้วอินห้องนั่งเล่น

บิ้วอินบ้านหรู

ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่แขกเห็นเป็นอันดับแรก งานบิ้วอินในจุดนี้จึงต้องเน้นความสวยงามและความเรียบร้อย เช่น ผนังทีวีบิ้วอิน ตู้โชว์ ตู้ลอย หรือชั้นวางของตกแต่งต่างๆ การบิ้วอินจะช่วยซ่อนสายไฟ ทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่รก และเสริมให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านดูเรียบหรูขึ้นทันที เหมือนบ้านตัวอย่างที่เราเคยไปเดินดูมา

บทความน่าสนใจ :

10 ไอเดีย บิ้วอินผนังทีวี เปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้สวยปัง


บิ้วอินห้องนอน

บิ้วอินห้องนอนหรู

ห้องนอนคือพื้นที่พักผ่อนที่ควรให้ความรู้สึกสงบและเป็นระเบียบ งานบิ้วอินในห้องนอนจึงมักประกอบด้วย ตู้เสื้อผ้าบิ้วอิน หัวเตียงบิ้วอิน ชั้นวางของข้างเตียง หรือแม้แต่โต๊ะเครื่องแป้งที่ออกแบบให้เข้าชุดกันทั้งหมด ความพอดีของสัดส่วนเฟอร์นิเจอร์ช่วยให้ห้องไม่ดูแน่นหรือโล่งเกินไป แถมยังประหยัดพื้นที่ได้อีกเยอะ


บิ้วอินห้องครัว

บิ้วอินห้องครัว

ครัวคือจุดที่การบิ้วอินแสดงพลังได้ชัดที่สุด โดยเฉพาะในบ้านที่เน้นฟังก์ชัน เพราะบิ้วอินครัวจะช่วยให้การวางเตา อ่างล้างจาน และตู้เก็บของ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ทั้งยังสามารถดีไซน์ให้ซ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไมโครเวฟ หรือตู้เย็นได้อย่างแนบเนียน ไม่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแปะทีละชิ้นให้ดูไม่เข้ากัน


บิ้วอินตู้เสื้อผ้า Walk-in Closet

บิ้วอินตู้เสื้อผ้า Walk-in Closet

สำหรับใครที่มีพื้นที่มากพอ Walk-in Closet แบบบิ้วอินคือความฝันที่เป็นจริง เพราะสามารถออกแบบให้เก็บของได้เป็นระบบ ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ไปจนถึงมุมแต่งตัวแบบส่วนตัว การบิ้วอินทำให้ทุกอย่างอยู่ในที่ของมัน ดูหรูและมีสไตล์สุดๆ เหมือนหลุดออกมาจาก Pinterest


บิ้วอินห้องทำงาน / มุมอ่านหนังสือ

บิ้วอินห้องทำงาน / มุมอ่านหนังสือ

เทรนด์ WFH ทำให้คนหันมาทำบิ้วอินห้องทำงานมากขึ้น เพราะโต๊ะทำงานลอยตัวอาจไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว บิ้วอินจะช่วยจัดพื้นที่ให้เหมาะกับการใช้งานจริง เช่น ทำตู้หนังสือแบบเต็มผนัง ช่องเก็บเอกสาร หรือโต๊ะทำงานที่มีระบบเก็บสายไฟและแสงสว่างที่เหมาะสม ทำให้การทำงานที่บ้านสะดวกและดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น


บิ้วอินบ้าน สไตล์ไหนดี? เลือกให้เหมาะกับบ้านและตัวคุณ

เมื่อพูดถึงการตกแต่งบ้านด้วยบิ้วอิน สิ่งที่สำคัญไม่แพ้การออกแบบก็คือ “การเลือกสไตล์ให้ตรงกับตัวตน” เพราะบิ้วอินไม่ได้แค่ทำให้บ้านดูเรียบร้อยหรือใช้งานได้ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกำหนดบรรยากาศของบ้านทั้งหลังเลยทีเดียว หลายคนจึงตั้งคำถามว่า บิ้วอินบ้านสไตล์ไหนดี ที่จะเหมาะกับบ้านที่มีอยู่ และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง

1. Modern Luxury — ความเรียบง่ายที่แฝงความหรูในทุกดีเทล

บิ้วอินบ้านหรูสไตล์ลักชัวร์รี่

ถ้าคุณชอบความหรูหรา แต่ไม่อยากให้บ้านดูโอ่อ่าจนเกินไป การ บิ้วอินบ้านสไตล์ Modern Luxury คือจุดลงตัวที่ตอบโจทย์ที่สุด สไตล์นี้จะเน้นความเรียบของรูปทรง แต่เสริมความหรูด้วยวัสดุ เช่น หินอ่อน กระจกเงา ทองแชมเปญ หรือไฟซ่อนแบบ warm light ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านดูมีระดับ โดยไม่ต้องมีลวดลายมากมาย บิ้วอินแบบ Modern Luxury ยังเหมาะกับบ้านยุคใหม่ทุกขนาด ทั้งคอนโด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม แค่เลือกวัสดุและโทนสีให้ลงตัว บ้านธรรมดาก็ดูแพงได้แบบไม่ต้องพยายาม


2. Luxury Classic — หรูหราแบบมีคลาส ยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกดี

บิ้วอินบ้านสไตล์คลาสสิค

สำหรับใครที่ชอบบ้านดูแพง มีความเป็นผู้ใหญ่ และใส่ใจรายละเอียด บิ้วอินสไตล์ Luxury Classic คือคำตอบ เพราะจะเน้นวัสดุที่ดูมีราคา เช่น หินอ่อน ลายไม้เข้ม งานหลุยส์เล็กๆ หรือเส้นสีทองบางๆ ที่ช่วยเพิ่มมิติ ความสวยของบ้านไม่ได้มาจากความเยอะ แต่มาจากการจัดวางและดีไซน์ที่ลงตัว สไตล์นี้เหมาะกับบ้านเดี่ยวหรือวิลล่า และเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนที่ชอบบ้านที่ “สวยทุกมุม”


3. Modern Minimal — เรียบง่าย แต่ดูดีในทุกมิติ

บิ้วอินบ้านสไตล์มินิมอลโมเดิร์น

เหมาะสำหรับคนที่ชอบบ้านดูสะอาด โปร่ง โล่ง และไม่รกตา การบิ้วอินสไตล์ Modern Minimal จะเน้นความน้อยแต่มากในเรื่องฟังก์ชัน ดีไซน์เน้นเส้นตรง สีเรียบ เช่น ขาว เทา หรือไม้โทนอ่อน ไม่มีลวดลายหวือหวาแต่ดูหรูแบบ understated เหมาะกับคอนโดหรือบ้านพื้นที่จำกัด การ เลือกสไตล์บิ้วอินบ้านแบบมินิมอล ยังช่วยให้บ้านดูไม่ล้าสมัยในระยะยาวอีกด้วย

บทความน่าสนใจ :

10 ไอเดีย ต่อเติมบ้าน ให้ดูสวย น่าอยู่ยิ่งขึ้น


4. Japandi Style — ผสมผสานความอบอุ่นแบบญี่ปุ่น กับความเท่ของสแกนดิเนเวีย

บ้านสไตล์japandi

ถ้าเพื่อนๆ อยากได้บ้านที่ดูสงบ นุ่มนวล และมีความเป็นธรรมชาติสูง แนะนำให้ลอง บิ้วอินบ้านสไตล์ Japandi ซึ่งกำลังมาแรงมากในกลุ่มเจ้าของบ้านยุคใหม่ สไตล์นี้เน้นวัสดุไม้ โทนสีธรรมชาติ เช่น น้ำตาลอ่อน เทา ครีม ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมนและน้อยชิ้น บ้านจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่รีสอร์ท เรียบง่ายแต่รู้สึก “ผ่อนคลาย” ทันทีที่เดินเข้ามา


บิ้วอินบ้าน ให้ดูแพงในงบจำกัด ทำยังไงได้บ้าง?

อยากให้บ้านดูหรูแต่ไม่อยากเปลืองงบเป็นแสน? บอกเลยว่าเป็นไปได้! การบิ้วอินบ้านไม่ได้จำเป็นต้องใช้วัสดุราคาแพงเสมอไป ถ้าเรารู้จักวางแผนและเลือกองค์ประกอบให้เหมาะสม ก็สามารถตกแต่งบ้านให้ออกมาดูดีมีระดับได้แม้มีงบจำกัด มาดู เทคนิคบิ้วอินบ้านประหยัดงบ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณดูแพงขึ้นโดยไม่ต้องจ่ายเกินความจำเป็นกันครับ

1. เลือกวัสดุที่ดูดีแต่ราคาไม่แรง

วัสดุบางชนิดดูคล้ายของแพงมาก แต่ราคากลับจับต้องได้ เช่น ไม้ลามิเนตลายหินอ่อน หรือเมลามีนลายไม้ธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้ให้ลุคที่หรูแบบแนบเนียน โดยไม่ต้องจ่ายเท่าหินแท้หรือไม้จริง นอกจากนี้ยังดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความคุ้มค่าในระยะยาว

2. ใช้โทนสีเรียบหรู เช่น ขาว ครีม น้ำตาลทอง

สีคือสิ่งที่เปลี่ยนอารมณ์ของบ้านได้ทันที การเลือกโทนสีที่ให้ความรู้สึกสงบ เรียบ หรู เช่น ขาวสะอาด ครีมอบอุ่น หรือสีน้ำตาลทองอ่อน จะช่วยให้บ้านดูพรีเมียมขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ สีพวกนี้ยังเข้ากับงานบิ้วอินแทบทุกสไตล์ และไม่ตกยุคง่ายอีกด้วย

3. ใช้ไฟซ่อน (ไฟ Warm Light) เพิ่มความหรู

แค่ติดไฟซ่อนใต้ชั้นวาง หัวเตียง หรือชั้นโชว์ ก็ช่วยให้บ้านดูเหมือนมีอินทีเรียร์มืออาชีพมาจัดการให้ ไฟ Warm Light จะสร้างบรรยากาศนุ่มนวล ช่วยให้วัสดุดูมีมิติ และเพิ่มความรู้สึกหรูหราให้พื้นที่ได้อย่างชัดเจน ทั้งที่ลงทุนเพียงนิดเดียว

4. ผสมผสานวัสดุ เช่น หินอ่อนกับไม้ลามิเนต

การจับคู่ระหว่างวัสดุที่ดูหรูอย่างหินอ่อน (จริงหรือเทียมก็ได้) กับไม้ลามิเนตที่มีลายและสีอบอุ่น เป็นสูตรสำเร็จที่หลายคนใช้ในการ บิ้วอินบ้านงบน้อยให้ดูแพง เพราะหินให้ความรู้สึกหรู ส่วนไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น การนำทั้งสองอย่างมาผสมกันจะทำให้บ้านดูมีเลเยอร์ มีรสนิยม โดยไม่ต้องใช้ของแพงทั้งหมด


สิ่งที่ควรรู้ก่อนเริ่ม บิ้วอินบ้าน (มือใหม่ต้องอ่าน!)

ใครที่กำลังจะตกแต่งบ้านด้วยงานบิ้วอิน อาจรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็มีคำถามเต็มหัวว่า…จะเริ่มตรงไหนก่อนดี? ต้องเตรียมอะไรบ้าง? หรือจะเสียเงินเกินงบไหม? เพื่อให้การบิ้วอินบ้านของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มงานจริง สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่า เริ่มบิ้วอินบ้านต้องรู้อะไรบ้าง บทนี้มีคำตอบให้แบบครบครับ

1. งบประมาณที่ต้องเตรียมก่อน บิ้วอินบ้าน

เรื่องเงินเป็นสิ่งที่ต้องชัดเจนตั้งแต่ต้น การบิ้วอินอาจใช้เงินมากกว่าการซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แต่ก็คุ้มค่าในระยะยาว คุณควรตั้งงบประมาณไว้ชัดเจน และเผื่อไว้อีก 10–15% สำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจเกินคาด เช่น ค่าวัสดุที่อยากเปลี่ยน ค่าดีไซน์เพิ่ม หรือค่าแรงเพิ่มเติมในหน้างาน

2. เลือกช่าง/บริษัทรับบิ้วอินที่ไว้ใจได้ในการ บิ้วอินบ้าน

ไม่ว่าจะมีแบบที่สวยแค่ไหน ถ้าช่างไม่ดี งานก็พังได้เหมือนกัน การเลือกทีมช่างหรือบริษัทรับบิ้วอินจึงสำคัญมาก ควรเลือกจากผลงานที่ผ่านการรีวิวจริง มีตัวอย่างให้ดู และสามารถคุยเรื่องดีไซน์หรือรายละเอียดต่างๆ ได้แบบเปิดใจ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มยังไง ลองค้นหา “เตรียมตัวก่อนบิ้วอินบ้าน” แล้วเปรียบเทียบผู้ให้บริการหลายๆ เจ้า ก่อนตัดสินใจดีที่สุดครับ

3. ต้องมีแบบ 3D หรือไม่ในการ บิ้วอินบ้าน

สำหรับงานบิ้วอินขนาดเล็ก เช่น ตู้เดียวหรือเคาน์เตอร์เล็กๆ อาจไม่จำเป็นต้องใช้แบบ 3D ก็ได้ แต่ถ้าเป็นการตกแต่งทั้งห้องหรือทั้งบ้าน การมีแบบ 3D จะช่วยให้คุณเห็นภาพล่วงหน้าว่างานจะออกมาหน้าตาแบบไหน แก้ไขจุดที่ไม่ชอบได้ก่อนเริ่มงานจริง ลดโอกาสผิดพลาด และช่วยในการคุยกับช่างให้เข้าใจตรงกันมากขึ้น

4. บิ้วอินบ้าน ใช้วัสดุอะไรดีถึงจะทนและสวย

วัสดุที่ใช้ในงานบิ้วอินมีหลายเกรด ทั้งไม้จริง ไม้ MDF ไม้ HMR หรือไม้ลามิเนต แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เช่น ไม้จริงดูหรูแต่แพง, MDF ทำสีได้เนียนแต่ไม่ทนน้ำ, HMR กันชื้นได้ดีกว่า ราคากลางๆ การเลือกวัสดุที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น บิ้วอินครัวควรใช้วัสดุกันชื้น หรือบิ้วอินห้องนอนอาจเลือกวัสดุที่เน้นความสวยงามและกลมกลืนกับบรรยากาศ

5. ควรทำทีเดียวทั้งหลังหรือค่อยๆ ทำทีละจุด

ถ้าคุณมีงบพร้อมและต้องการความต่อเนื่องของดีไซน์ การบิ้วอินทั้งหลังก็จะช่วยให้บ้านดูจบในสไตล์เดียวกัน แต่ถ้างบยังไม่พอ ทำทีละจุดก็ไม่ใช่เรื่องผิด เริ่มจากพื้นที่ใช้งานหลัก เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน แล้วค่อยขยับไปห้องอื่นในภายหลัง สิ่งสำคัญคือต้องมี “ภาพรวมในหัว” ว่าบ้านจะออกมาเป็นแบบไหน เพื่อไม่ให้ห้องหนึ่งโมเดิร์น อีกห้องหลุดไปเป็นคลาสสิคจนบ้านดูไม่เข้ากัน