แต่งห้องนอนสไตล์โมเดิร์น ถือเป็นหนึ่งสไตล์ที่คนปัจจุบันนิยมใช้เเต่งห้องนอน ซึ่งพื้นที่ห้องนอน ถือเป็นห้องส่วนตัวของแต่ละคน แน่นอนว่า พื้นฐานสำคัญที่ต้องมี คือ ความเป็นอิสระและไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ง่าย ดูโปร่ง โล่ง สบาย เหมาะกับการพักผ่อนอย่างราบลื่นที่สุดตลอดคืน และต้องสะอาด ไม่มีกลิ่น ฝุ่น เสียง มากวนใจ และนอกเหนือไปจากนั้น คือ หลักฮวงจุ้ยจะเข้ามาช่วยเพิ่มความสบายใจและความสุขจากการเพิ่มและปรับเปลี่ยนองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ในห้อง
10 ไอเดีย แต่งห้องนอนสไตล์โมเดิร์น สุดปัง
10 แนวทางการ แต่งห้องนอนสไตล์โมเดิร์น ให้น่านอน
1. เลือกห้องที่ไกลที่สุดจากประตูทางเข้าหลักของบ้าน
ประตูหลักจะส่งพลังชี่ที่มากเกินไปมายังส่วนห้องนอน และเตียงนอน จนอาจรบกวนการพักผ่อนได้ บางครั้งเราอาจมีตัวเลือกไม่มากนักในการเลือกตำแหน่งห้อง ตัวช่วยที่ดีคือ ลองหาเฟอร์นิเจอร์ ฉากกั้น เป็นตัวช่วยเรื่องพื้นที่และเพิ่มระยะช่องว่าง
บทความน่าสนใจ :
2. ประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกับเตียงนอน
ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่า ขณะเปิดประตูจะเป็นการเปิดรับพลังงานเข้ามาในห้องด้วย ทำให้พลังงานนั้นปะทะกับเตียงและผู้ใช้ในห้องโดยตรง ส่งผลต่ออาการนอนไม่หลับ ไม่สบายใจ และมีปัญหาด้านสุขภาพได้ แต่สำหรับพื้นที่คอนโดฯ แบบสตูดิโอไม่ต้องกังวลใจไปลองหาเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว หรือบิ้วอินมาวางไว้ ลองใช้ผ้าม่านกั้นพื้นที่ หรือทำฉาก partition กั้นเพื่อจัดสรรพื้นที่
3. ลองวางต้นไม้เงินไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งของห้องนอน
ปกติการวางต้นไม้นั้นนิยมวางไว้ให้พ้นตำแหน่งสายตาขณะอยู่บนเตียงนอน เพราะต้นไม้สัมพันธ์กับพลังหยางหรือพลังร้อน ซึ่งจะรบกวนการนอนหลับได้ อย่างไรก็ดี หากคุณต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์กับคนรัก ควรเลือกสีชมพูและสีแดง สีเหล่านี้จะนำไปสู่ความรักที่ราบรื่น แต่อย่าลืมว่า สีส้มหรือสีเหลืองส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับพลังหยางจึงควรวางในมุมที่เหมาะสม
บทความน่าสนใจ :
4. วางเฟอร์นิเจอร์คู่เสริมสร้างความสัมพันธ์
ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟคู่บริเวณโต๊ะหัวเตียง หรือภาพคู่รัก เทียนคู่ หรือพืชที่มีใบกลม อย่าลืมเพิ่มอุปกรณ์เสริมที่มีสีชมพูหรือสีแดงเพื่อกระตุ้นเรื่องความรัก และเคล็ดลับสำคัญ คือ พลังของเป็ดแมนดาริน ที่ควรจัดหามาวางให้อุ่นใจ เพราะเป็นสัญลักษณ์เรื่องความรักขั้นสูงสุดในด้านฮวงจุ้ย
5. วางของประดับตกแต่งเพิ่มโชคลาภ
เช่น แขวนโมบาย จะช่วยเพิ่มพลังงานในห้อง ทำให้มีโชคลาภ การเงินจะหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น หินมงคล ช่วยเพิ่มพูนโชคลาภให้เงินทองไหลเข้ามา คริสตัล ลองนำลูกคริสตัลหรือคริสตัลแบบแท่งมาวางไว้ในห้องนอน จะช่วยเพิ่มพลังงานภายในห้อง ส่งเสริมด้านความเจริญรุ่งเรือง
บทความน่าสนใจ :
6. หลีกเลี่ยงเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง
ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ตู้เย็น โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์ เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้สามารถรบกวนการนอนหลับได้
7. ไม่แนะนำกระจกที่ตรงกับเตียงนอนหรือตู้เสื้อผ้าที่ประตูเป็นกระจก
กระจกที่ตรงกับเตียงนอน จะทำให้เกิดปัญหามือที่ 3 ในชีวิตคู่ นอกจากนี้กระจกยังแฝงพลังงานที่มากเกินไป หากไม่สามารถเคลื่อนย้ายกระจกเหล่านั้นออกไปได้ ให้นำผ้ามาคลุมไว้ เพราะกระจกอาจรบกวนการนอนได้
8. ห้องนอนที่ดีไม่ควรมีโต๊ะทำงานหรือการนำงานเข้ามาทำในห้อง
จากสภาพแวดล้อมที่มีงาน งาน งาน คงเป็นเรื่องยากที่คุณจะหลับไปโดยไม่คิดถึงเรื่องงาน ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มคนรักหนังสือ ควรเก็บในบนหัวนอนจำนวนไม่กี่เล่มสำหรับอ่านให้ผ่อนคลาย เพราะถ้ามากกว่านั้นอาจทำให้เกิดความคิดและกังวล เหมือนห้องทำงานได้ นอกจากนี้การจัดแสงสว่างที่ดี และเหมาะสมก็จะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับชีวิตของคุณรุ่งโรจน์ด้วยเช่นกัน เฮเฟเล่ขอแนะนำ หลอดไฟ LED Hafele BULB A60 มีให้เลือกทั้ง หลอด ไฟ LED 9 วัตต์ และ 7 วัตต์ เหมาะกับการใช้งานในห้องขนาดเล็ก – ปานกลาง และ หลอดไฟ LED 12 วัตต์ เหมาะกับห้องโถง ห้องนั่งเล่น เป็นต้น นอกจากนี้ หลอดไฟ LED Hafele ยังมีคุณสมบัติประหยัดพลังงานถึง 85 % เมื่อเทียบกับหลอดไส้ นอกจากนี้ยังช่วยลดลดอุณหภูมิภายในห้องสำหรับบ้านใครที่ใช้เป็นหลอดไฟชนิดฟลูออเรสเซนต์ ก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นหลอดไฟ LED รุ่น T8 ของ Hafele ได้ มีให้เลือกทั้ง 9 W 18 W ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว ยังให้แสงสว่างสม่ำเสมอและแสงไม่กระพริบสั่น จึงช่วยถนอมสายตา
9.วางดอกไม้ในห้องนอนช่วยเพิ่มความน่ารัก ลดบรรยากาศเครียด
การวางต้นไม้ในห้องนอนมีประโยชน์หลายประการที่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น ต้นไม้สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศโดยการกรองสารพิษและเพิ่มออกซิเจน ซึ่งทำให้การหายใจสะดวกขึ้นและเพิ่มความชื้นในอากาศที่ช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและผิวหนังแห้ง นอกจากนี้ การอยู่ใกล้ต้นไม้ยังช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ เนื่องจากการดูแลต้นไม้เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย และช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนดูสดชื่นและมีชีวิตชีวา ทำให้คุณรู้สึกสงบและสบายขึ้น ต้นไม้ในห้องนอนยังช่วยเพิ่มความรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติ แม้ในพื้นที่ปิด และบางการศึกษาแสดงให้เห็นว่าอาจมีความสัมพันธ์กับการนอนหลับที่ดีขึ้น เพราะต้นไม้สามารถช่วยลดความเครียดและปรับปรุงคุณภาพอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
10.รูปภาพ ศิลปะช่วยเพิ่มพลังบวก
6 ทริค การคัดเลือกช่างที่ดีในการบิ้วอิน ตกแต่งห้องนอนสไตล์โมเดิร์น
1. ตรวจสอบผลงานที่ผ่านมา (Portfolio)
ก่อนอื่นเลยต้องขอดูผลงานเก่าของช่างให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายหรือผลงานจริงที่เคยทำไว้ หากเป็นช่างที่มีประสบการณ์เฉพาะทางในการทำผนังทีวีบิ้วอินจะสามารถเข้าใจเรื่องโครงสร้าง การซ่อนสายไฟ การติดตั้งทีวี และการเลือกใช้วัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูจากสไตล์งานว่าใกล้เคียงกับที่เราต้องการหรือไม่ เช่น สไตล์โมเดิร์น เรียบหรู มินิมอล หรือเน้นฟังก์ชันล้วนๆ
2. มีความเข้าใจด้านฟังก์ชันการใช้งานร่วมกับดีไซน์
ผนังทีวีที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช้งานได้จริง เช่น ต้องเว้นระยะห่างระหว่างทีวีกับสายตาอย่างเหมาะสม ซ่อนสายไฟให้เรียบร้อย มีพื้นที่วางของเสริม เช่น ชั้นวางเครื่องเล่น หรือลิ้นชักซ่อนอุปกรณ์ หากช่างมีประสบการณ์จะรู้ว่าต้องวางจุดปลั๊กที่ไหน ติดตั้งช่องระบายอากาศหลังทีวีหรือไม่ และจะสามารถให้คำแนะนำได้ตั้งแต่ตอนออกแบบเลยครับ
3. ใช้วัสดุได้เหมาะสมกับงบและสไตล์
ช่างที่ดีจะสามารถแนะนำวัสดุที่เหมาะสมทั้งเรื่องความทนทาน และความสวยงาม เช่น หากต้องการผนังสไตล์หินอ่อนแต่มีงบจำกัด อาจแนะนำลามิเนตลายหินที่ดูคล้ายกันในราคาย่อมเยา หรือหากต้องการผนังลายไม้แบบมินิมอล อาจเลือกใช้ไม้จริงหรือไม้ MDF ปิดผิว Depending on budget โดยช่างที่มีประสบการณ์จะรู้ข้อดีข้อเสียของวัสดุแต่ละแบบเป็นอย่างดี
4. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือและรีวิว
หากเป็นทีมช่างจากบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน ลองหาข้อมูลใน Google, Facebook Page หรือ Pantip ดูว่ามีรีวิวอย่างไรบ้าง ส่วนถ้าเป็นช่างอิสระ ให้สอบถามจากคนรู้จักที่เคยใช้บริการ หรือเช็กชื่อในกลุ่มช่างแต่งบ้านในโซเชียล ซึ่งจะช่วยกรองช่างที่มีปัญหาการทิ้งงานหรือคุณภาพไม่สม่ำเสมอได้ครับ
5. มีแบบแปลนและใบเสนอราคาชัดเจน
ช่างที่ดีจะสามารถเขียนแบบแปลน 3D หรือภาพจำลองเบื้องต้นให้เราดูได้ และจะมีใบเสนอราคา (Quotation) ชัดเจนว่ามีรายการใดบ้าง ใช้วัสดุอะไร ระยะเวลาทำงานกี่วัน ซึ่งจะช่วยให้เราคุมงบได้ และลดความเข้าใจผิดในภายหลัง นอกจากนี้ควรมีการเซ็นสัญญาเพื่อความปลอดภัย ทั้งในแง่คุณภาพและระยะเวลาส่งมอบ
6. สื่อสารได้ดี และใส่ใจในรายละเอียด
ระหว่างพูดคุย ให้สังเกตว่าเขาฟังความต้องการของเราหรือไม่ ให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพไหม และตอบคำถามชัดเจนหรือเปล่า หากช่างมีความใส่ใจ เขาจะถามรายละเอียดหลายอย่าง เช่น ขนาดทีวี ตำแหน่งเต้าเสียบไฟ วัสดุที่เราชอบ หรือของที่ต้องการโชว์ เพราะทั้งหมดนี้คือส่วนประกอบสำคัญของการออกแบบผนังทีวีให้ตรงใจ